บริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 214 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 29.97% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในไตรมาส 3/57 โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
RICHY มีทุนจดทะเบียน 714 ล้านบาท มีทุนที่ชำระแล้วจำนวน 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 500 ล้านหุ้น เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีจุดเด่นในหลายด้าน เช่น ทำเลที่ตั้งของโครงการของบริษัทตั้งอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าในรัศมีไม่เกิน 100 เมตร บริษัทมีความสามารถในการบริหารต้นทุน และเวลาในการก่อสร้าง รวมถึงมีประสบการณ์ของทีมงานบริหารที่ยาวนาน และมีการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 12 ปี
ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่เปิดขายอยู่ 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการ 6,488 ล้านบาท และเตรียมเปิดโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพราะความต้องการของตลาดยังมีสูง
"นอกจากจุดเด่นของ RICHY ในเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการแล้ว ในด้านของความสามารถทำกำไรก็โดดเด่นไม่แพ้กันโดยในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น ณ สิ้นปี 2556 ทำได้ถึง 36% ทำให้เชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและได้การตอบรับที่ดี"นางอาภา กล่าว
สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทมีนโยบายเน้นทำเลที่มีศักยภาพตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและเป็นชุมชุมที่คนอาศัยหนาแน่น บริษัทดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูงและแนวราบ โดยแนวสูงประเภทคอนโดมิเนียมประกอบด้วย แบรนด์ริชพาร์ค แบรนด์เลอริช โดยจะเน้นที่ตั้งใกล้บริเวณแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นหลัก สำหรับแนวราบประกอบด้วยแบรนด์ริชชี่ วิลล์ ที่เป็นบ้านเดี่ยวจัดสรร และแบรนด์เดอะริช บิซโฮม สุขุมวิท 105 เป็นทาวโฮม 3 ชั้น
โครงการในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 9 โครงการแบ่งเป็นโครงการที่ปิดการขายแล้วคือ โครงการริชชี่วิลล์ บางบัวทอง โครงการริชชี่ทาวเวอร์ เพชรเกษม-สาธร โครงการเลอริช@อารีย์ โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดขายมี 3 โครงการคือ โครงการคอนโดมิเนียมเลอริช พระราม 3 โครงการเลอริช รัชดา-สุทธิสาร โครงการริชพาร์ค@บางซ่อนสเตชั่น และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและเปิดขายคือ โครงการคอนโดมิเนียมริชพาร์ค@เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ โครงการริชพาร์ค@เจ้าพระยา โครงการทาวน์โฮม และเดอะริช บิซโฮม สุขุมวิท 105
“เชื่อว่าหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จะทำให้บริษัทมีความพร้อมทางด้านเงินทุนและบุคลากรมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นมา และเมื่อผนวกเข้ากับผลประกอบการที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งลูกค้ายังคงขยายธุรกิจต่อเนื่องทำให้มีโครงการใหม่เพิ่มเติมตลอดเวลา ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการในปี 57 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% จากคอนโดมิเนียมที่เปิดขายและประสบความสำเร็จ" นางอาภา กล่าว