ดังนั้น บริษัทจึงยังมั่นใจที่จะทำให้กำไรสุทธิในงวดปี 57 สิ้นสุดเดือน ก.ย.57 มากกว่างวดปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.63 หมื่นล้านบาท แม้ว่าปริมาณผู้โดยสารที่ใช้ท่าอากาศยานของบริษัทในปี 57 เฉลี่ยทั้งปีจะเติบโตเพียง 3% จากปี 56 ที่เติบโตถึง 8-9% เนื่องจากช่วงต้นปีนี้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง โดยเฉพาะใน กทม. ส่งผลต่อจำนวนผู้โดยสารที่เข้ามาใช้ท่าอากาศลดลงตามไปด้วย
ประกอบกับ ในงวดไตรมาส 3/57(เม.ย.-มิ.ย.)เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้จำนวนผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการยังไม่ได้เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าบรรยากาศสถานการณ์ทางการเมืองของไทยจะเริ่มมีความสงบ ทำให้บรรยากาศในการใช้ชีวิตของผู้คนในประเทศเป็นไปตามปกติก็ตาม
อนึ่ง AOT เป็นผู้บริหารท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , ดอนเมือง , ภูเก็ต , หาดใหญ่, เชียงใหม่ และเชียงราย
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการพิจารณาจากทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อตรวจสอบ ปรับปรุงและแก้ไขรายละเอียดต่างๆของโครงการดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องและโปร่งใสของการลงทุนในการลงทุน
“โครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ก็เสนอ คสช.ใน 3 มิติ ตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือและรอทาง คสช.พิจารณา ปรับปรุงและแก้ไขรายละเอียด พร้อมตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสการลงทุนให้มากขึ้น ตอนนี้ยังเปิดเผยรายละเอียดต่างๆไม่ได้"นายเมฆินทร์ กล่าว
ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองจะมีการดำเนินการปรับปรุงเพื่อให้มีความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารให้เพิ่มากขึ้น โดยคาดว่าในปี 59 ท่าอากาศยานดอนเมืองจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ราว 40 ล้านคน จากในปี 57 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ราว 18 ล้านคน
“สนามบินดอนเมืองเราก็จะปรับปรุงให้เสริมกับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งกันและกัน โดยจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารให้ได้ราว 18 ล้านคน 30 ล้านคน และ 40 ล้านคน ตั้งแต่ปี 57-59 เพื่อเป็นการส่งเสริมซึ่งกัยและกันกับสนามบินสุวรรณภูมิ"นายเมฆินทร์ กล่าว