ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 331,690 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 14, 2014 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (7 – 10 กรกฎาคม 2557) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 331,690 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 82,923 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 10% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 66% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 217,552 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 50,130 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน(Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 4,688 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% และ 1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 4.9 ปี) LB296A (อายุ 14.9 ปี) และ LB176A (อายุ 2.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 13,219 ล้านบาท 9,433 ล้านบาท และ 8,286 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB14729A (อายุ 14 วัน) CB14O09B (อายุ 91 วัน) และ CB14O30B(อายุ 112 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 31,878 ล้านบาท 24,686 ล้านบาท และ 13,191 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รุ่น MINT193A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 437 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU195A (AA-) มูลค่าการซื้อขาย 415 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT14DA (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 271 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ปรับตัวลดลงในช่วงประมาณ -3 ถึง -7 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) ตามทิศทางของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ(US Treasury) ที่ลดลงเช่นกัน ภายหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ครั้งล่าสุด ที่พบว่ายังไม่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ Fed จะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างใด นอกจากนี้แล้ว นักลงทุนบางกลุ่มมองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงเศรษฐกิจโลกยังค่อนข้างอ่อนแอ เห็นได้จากประเทศในแถบภูมิภาคยุโรป เช่น อังกฤษ, เยอรมนี ที่มีตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างน่าผิดหวังในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น US Treasury เพิ่มขึ้น และส่งผลให้ Yield ของ US Treasury ลดต่ำลง (ราคาสูงขึ้น) โดยเฉพาะในตราสารระยะยาวที่ลดลงกว่า 10 Basis Point และมีส่วนทำให้ Yield ของพันธบัตรไทยปรับตัวลดลงตามไปด้วย

นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท (ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) รวมกัน 18,681 ล้านบาทโดยแบ่งเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) 19,281 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 599 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อยมียอดซื้อสุทธิ 0.01 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ