แนวโน้มการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบในเรื่องของการปิดภาคเรียนและการชะลอการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ขณะที่เชื่อว่าครึ่งปีหลังนี้ความต้องการกระดาษอีโคไฟเบอร์ จะเริ่มกลับมาดีขึ้น จากที่มีการเปิดภาคเรียนของสถาบันการศึกษา รวมถึงมีการอนุมัติงบประมาณของภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับปี 56 ความต้องการใช้กระดาษดังกล่าวเติบโตลดลง 8%
บริษัทตั้งเป้าหมายในช่วง 4-5 ปี จะมีความต้องการใช้กระดาษอีโคไฟเบอร์เพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันมีความต้องการใช้กระดาษอีโคไฟเบอร์อยู่ที่ 8% และคาดว่ายอดขายจะแตะระดับ 1,000 ล้านบาทได้
"แนวโน้มของการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถ้าหากทางภาครัฐได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณและงบต่างๆ ลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจ ก็จะทำให้ตลาดโตไปได้ เพราะหน่วยงานของภาครัฐก็มีการใช้กระดาษในการดำเนินงานด้านต่างๆ ค่อนข้างมาก คาดว่าปีนี้จะมียอดขายจากกระดาษอีโคไฟเบอร์อยู่ที่ 300 ล้านบาท และภายใน 4-5 ปีนับจากนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท"นายพุทธพร กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทวางงบการตลาดใน 3 ปี(ปี 57-59) ไว้จำนวน 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการโปรโมทสินค้าที่เป็น Green ทั้งหมด ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทฯก็ได้วางงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา(R&D) และเครื่องจักรสำหรับผลิตอีโคไฟเบอร์คุณภาพสูง ณ สิ้นปีนี้คาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25,000 ตัน/ปี จากเดิมใช้กำลังการผลิตประมาณ 5,000 ตัน/ปี