"ยอดขายเป้าหมายทั้งปีก็น่าจะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาทได้ ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักจะมาจาก Standard Len 26% ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายที่วางไว้ อาจจะเป็นการที่เราเพิ่มการเก็บสต็อกสินค้าให้กับลูกค้าบางเจ้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ลูกค้าจึงมีการเพิ่มคำสั่งซื้อ ส่วน Rx Lens มีสัดส่วนรายได้ 34% และที่เหลือจะเป็นพรีเมี่ยม ซึ่งเราจะพยายามรักษาสัดส่วนรายได้ตรงนี้"นายวิรัช กล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/57 น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ TOG มีรายได้จากการขายและให้บริการ 484.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน 105.10 ล้านบาท หรือ 27.69% เนื่องจากที่บริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับที่เหมาะสมคือ 32 บาท/ดอลลาร์
ประกอบกับ บริษัทได้ปรับปรุงการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 30% ขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนได้ 8% ทำให้บริษัทไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรใหม่เพิ่มมากนักในปีนี้ โดยตั้งงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาทใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี และซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาชดเชยเครื่องจักรที่มีการปลดระวางออกไป
"แนวโน้มไตรมาส 2 ก็คล้ายๆกัน แต่จะออกมาดีกว่าไตรมาสแรกหรือไม่นั้นยังต้องดูอีกที ซึ่งไตรมาสแรกยอดขายปรับตัวขึ้นมาพอสมควร แต่แนวโน้มทางด้านการขายถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี การควบคุมต้นทุนดี ก็น่าจะออกมาคล้ายๆ กัน จากคำสั่งซื้อที่ลูกค้ามีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการออก product ใหม่ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ได้รับอานิสงส์จะมาจากอัตราแลกเปลี่ยน และการควบคุมต้นทุนขายมากกว่า ซึ่งเราทำได้ดีมาก"นายวิรัช กล่าว
สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง มองว่าในไตรมาส 3/57 จะเข้าสู่ช่วงโลซีซั่น เนื่องจากทางยุโรปและออสเตรียมีวันหยุดค่อนข้างมาก ส่งผลให้ยอดขายหดตัวลงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็ยังน่าจะเติบโตได้ดีกว่า และไตรมาส 4/57 ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายวิรัช กล่าวถึงการขยายตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทหาลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลูกค้ารายเล็กจากแถบยุโรป ขณะที่การนำสินค้าใหม่ไปจำหน่ายในตลาดสหรัฐถือว่ามีการตอบรับที่ดีและมีแนวโน้มเพิ่มคำสั่งซื้ออีกด้วย