ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2556 จำนวน 1,091.1 ล้านบาท หรือ 27.0% เป็นจำนวน 5,133.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 739.1 ล้านบาท หรือ 24.4% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการไถ่ถอนตราสารหนี้ด้อยสิทธิก่อนกำหนด และการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 67.5 ล้านบาท หรือ 12.8% ส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมบริการที่ปรึกษา และค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 284.5 ล้านบาท หรือ 58.8% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ และกำไรจากเงินลงทุน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือนปี 2557 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2556 เพิ่มขึ้นจำนวน 541.9 ล้านบาทหรือ 18.7% เป็นจำนวน 3,439.7 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องของธนาคาร อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2557 อยู่ที่ 67.0% ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2556 อยู่ที่ 71.7% เป็นผลจากการปรับปรุงแผนการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีผนวกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธนาคารยังคงดำเนินการด้านการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาระบบงานต่างๆ อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดหกเดือนปี 2556 อยู่ที่ 3.35% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับปี 2556 อยู่ที่ 3.22% โดยธนาคารสามารถควบคุมต้นทุนเงินฝากที่ดีขึ้น
วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชีของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 1.789 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก ตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้จำนวน 192.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากสิ้นปี 2556 ซึ่งมีจำนวน 1.906 แสนล้านบาท ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 93.1% จาก 90.3% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 3.1% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 2.5% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 อยู่ที่ 100.8% ลดลงจากสิ้นปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 107.8% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 5.6พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.6 พันล้านบาท
เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2557 มีจำนวน 2.71 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 13.8% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 10.4%