ขณะที่ TPARK ได้ดำเนินการตามแผนขยายธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าไปทั่วทุกภาคของประเทศ โดยตั้งงบลงทุนรวม 3,600 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาโครงการในจ.ขอนแก่น จ.สุราษฎร์ธานี และจ.ลำพูน-เชียงใหม่ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าให้เช่ารวมทั้ง 3 โครงการ ราว 3 แสนตารางเมตร ทั้งนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าทยอยให้เช่าเริ่มเฟสแรกตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป
โดยโครงการ TPARK จ.ขอนแก่น ตั้งเป้าสร้างคลังสินค้าให้เช่าพื้นที่รวม 1.36 แสนตารางเมตร ซึ่งจะก่อสร้างเฟสแรกแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 2/58 จะมีพื้นที่รวม 1 หมื่นตารางเมตร โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายธุรกิจค้าส่งค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มโมเดิร์นเทรดและผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ รวมถึงสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างรองรับการเติบโตของภูมิภาค โดยมองแนวโน้มการเติบโตของจ.ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภาคอีสานซึ่งมีความเหมาะสมในการตั้งศูนยฺกระจายสินค้าเพื่อรองรับการขยายสินค้าไปยังจังหวัดต่างๆ โดยรวม ประกอบกับมีปริมาณประชากรและกำลังซื้อมาก
โครงการสร้างคลังสินค้าให้เช่า จ.สุราษฎร์ธานี พื้นที่ 4.06 หมื่นตร.ม.คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเฟสแรกในช่วงไตรมาส 4/57 กำหนดเสร็จในช่วงไตรมาส 3/58 โดยมอง จ.สุราษฎร์ เป็นศูนย์กลางภาคใต้จึงเอื้อสะดวกในการกระจายสินค้ารองรับอุตฯท่องเที่ยว ภาคใต้
ส่วนโครงการจ.ลำพูน-เชียงใหม่ ตั้งเป้าสร้างคลังสินค้าพื้นที่ 1.26 แสนตร.ม.คาดดำเนินการแล้วเสร็ตไตรมาส 4/58 มองสะดวกรองรับการเติบโตภาคเหนือ
นอกจากนี้ TPARK ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพื่อรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจและอุตฯของประเทศในแถบอาเซียนจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 58 โดยบริษัทได้ศึกษาศักยภาพในประเทศอินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม บริษัทมองว่าพม่ากับเวียดนามมีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้าไปสร้างคลังสินค้า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าในประเทศพม่าตั้งเป้าจะพัฒนาพื้นที่เป็นคลังสินค้า ประเภทค้าปลีกและ Built-to-suit เพื่อกระจายสินค้าเบื้องต้นคาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 1-1.5 หมื่นตร.ม.
ส่วนเวียดนามอยู่ระหว่างศึกษาระหว่างเวียดนามใต้เมืองโฮจิมินห์ ซึ่งอยู่ขั้นตอนเจรจาลูกค้าเช่นกัน ตั้งเป้าพื้นที่ 2 หมื่นตร.ม.ตามแผนที่จะพัฒนาเป็นคลังสินค้าประเภทค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค
"เรามีจุดเด่นในเรื่องของเป็นคลังสินค้าที่มีคุณภาพพร้อมใช้ ขณะที่เราสามารถควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างและมีความเข้มแข็งด้านการเงินที่จะหมุนเวียนในบริษัท โดยเรามีการศึกษาความต้องการของลูกค้าก่อนที่จะมีการลงทุน ปีนี้เราก็มองการเติบโตและความต้องการที่ลูกค้าจะเน้นไปที่เรื่อง Built-to-suit ซึ่งเราก็มองอนาคตอาจเปลี่ยนแปลงคลังให้เช่าไปเรื่อยๆ และยังคาดหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการยกระดับการให้บริการคลังสินค้าไปสู่ระดับมาตรฐานเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย"นายปธาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทมีแผนที่จะขยายเข้าไปลงทุนในต่างประเทศนั้น เรายังมองไทยน่าสนใจกว่าโดยประชากรไทยมีมากกว่าเวียดนาม พม่า ที่จะต้องใช้คลังสินค้าเพื่อเก็บของจึงยังมองไทยมีความต้องการมากกว่าต่างประเทศขณะที่ก็มองว่าต่างประเทศยังไม่มีคนเข้าไปดำเนินธุรกิจจคลังสินค้ามากนัก และคุณภาพด้อยกว่า ก็เชื่อว่าลูกค้าจะหันมาเช่าคลังสินค้าของบริษัท
บริษัทคาดจะนำสินทรัพย์ของบริษัทขายเข้ากองทุน REIT คาดว่าจะเป็นไปตามแผนจะเข้าในช่วงไตรมาส 3/57 มูลค่า 4.5 พันล้านบาท
ส่วนแผนการเข้าตลาดบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและดำเนินการโดยต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทก่อน