สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้วันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 70,860 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 38,614 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 54.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 25,804 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 36.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,759 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB236A และ LB176A (รุ่นอายุ 4.9 ปี, 8.9 ปี และ 2.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 18,043 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)(PTTEP296A)มูลค่า 410.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)(DTAC167A) มูลค่า 298.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)(BAY164A)มูลค่า 220.8 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 929.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,920 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 866 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,557 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.1% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลก ซึ่งล่าสุดจีนประกาศ GDP ไตรมาส 2/57 ที่ 7.5% YoY ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 7.4% ส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในพันธบัตรระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 9,557 ล้านบาท (ทั้งนี้ มูลค่าส่วนใหญ่เป็นการซื้อต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า)