ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มฐานลูกค้ารายใหม่ เพิ่มยอดขายจากลูกค้ารายเดิม รวมทั้งปลายปี 58 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิเช่น พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เป็นต้น โดยเบื้องต้นบริษัทฯมองโอกาสในประเทศพม่าเป็นที่แรก จากที่พม่ามีศักยภาพและมีจำนวนประชากรมาก ประกอบกับพม่า การผลิตขวดพลาสติกยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงถือว่าเป็นโอกาสในการที่จะเข้าไปบุกตลาดในรูปแบบของการไปตั้งโรงงานผลิต จากนั้นจะเข้าไปบุกตลาดในประเทศกัมพูชาต่อไป ส่วนปาะเทศลาว มองว่าน่าจะเป็นการตั้งโรงงานในแถบชายแดนไทย เพื่อส่งสินค้าเข้าไปแทน
ด้านนายวัชร วิทยฐานกรณ์ กรรมการและผู้บริหาร PDG กล่าวว่า บริษัทมั่นใจปีนี้รายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% จากปีก่อน โดยคาดว่าครึ่งปีหลังกำลังการบริโภคจะฟื้นตัว และจากที่บริษัทมีการขยายตลาดต่อเนื่อง ขณะที่ภายใน 3 ปี (57-59) บริษัทฯคาดว่ารายได้จะเติบโตแตะระดับ 1,000 ล้านบาทได้ จากการเข้าไปบุกตลาดในต่างประเทศและการเพิ่มกำลังการผลิต
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย กล่าวว่า PDG เป็นหุ้นที่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในตลาดแน่นอน เนื่องจากราคา IPO ที่กำหนดที่ 2.80 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่ดีเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 15-20% จากราคา Fair Value หลังจากที่มีการนำเสนอข้อมูลของบริษัท ให้กับนักลงทุนใน 4 จังหวัดที่ผ่านมา คือ กรุงเทพ ขอนแก่น เชียงใหม่ และหาดใหญ่
"มั่นใจว่า หุ้น PDG จะเป็นหุ้นจดทะเบียนใหม่ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในตลาดอย่างแน่นอน จากการประกอบธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และโอกาสทางธุรกิจในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ จากความต้องการของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มากขึ้น ประกอบกับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือกลุ่มบริษัทน้ำมันพืชไทย (TVO) และกลุ่มน้ำมันบริโภคไทย (น้ำมันพืชคิง) อีกทั้งยังคาดว่า PDG จะได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ จากภาวะการลงทุนในช่วงปัจจุบันที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ผมมั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นของ PDG จะได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุน และจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นภายหลังการเข้าจดทะเบียน"นายมนตรี กล่าว
PDG เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวด PET ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตขวด PET รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ บริษัทมีทุนจดทะเบียน 135 ล้านบาท ออกและชำระแล้ว 100 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 270 ล้านหุ้น ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า"PDG"