(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์หลังได้รธน.ชั่วคราวหนุนต่างชาติเชื่อมั่นมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 23, 2014 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ เนื่องจากประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว คาดว่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในกรอบการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)อีกทั้งเงินบาทก็แข็งค่าในรอบ 8 เดือน สะท้อนให้เห็นว่าเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกราว 0.2-0.5% ทิศทางเดียวกับดาวโจนส์ และตลาดยุโรปที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดี โดยตัวเลขยอดขายบ้านมือสองที่ออกมาดี และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯก็ยังไม่ได้กดดัน

พร้อมให้แนวรับ 1,515-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530-1,535 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(22 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,113.54 จุด เพิ่มขึ้น 61.81 จุด(+0.36%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,983.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.90 จุด (+0.50%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,456.02 จุด เพิ่มขึ้น 31.32 จุด (+0.71%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 23.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 59.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.63 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.95 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 ก.ค.) 1,520.81 จุด ลดลง 17.74 จุด(-1.15%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,759.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ก.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(22 ก.ค.)ที่ 104.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ลดลง 17 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(22 ก.ค.)ที่ 3.85 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.76/77 แข็งค่าต่อ หลังดอลล์อ่อน-Flow ไหลเข้า
  • กสทช.เรียก 3 ค่ายมือถือ"เอไอเอส- ดีแทค-ทรู"แจงปมต่างด้าวถือหุ้น 24 ก.ค.นี้"เศรษฐพงค์"ลั่นตรวจสอบละเอียดทุกด้าน ใช้เป็นเกณฑ์ประมูล 4 จี ระบุป้องกันครอบงำ-ปัญหาความมั่นคง ด้านนักวิเคราะห์ระบุไม่กระทบธุรกิจเนื่องจากบริษัทสื่อสารทั้ง 3 บริษัทเคยผ่านเกณฑ์แล้ว ขณะราคาหุ้นร่วงกังวลผลกระทบ
  • บาทแข็งค่ารอบ 8 เดือนตามเงินภูมิภาค จากเงินทุนไหลเข้าตลาดเอเชีย "พิสิฐ" มองแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง หลังภาพการเมืองชัด นักลงทุนเชื่อมั่น ขณะทุนนอกไหลเข้าตลาดพันธบัตร หลังคสช.ยึดอำนาจ กว่า 8.4 หมื่นล้านบาท สมาคมตราสารหนี้ฯคาดทั้งปีต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ หลังเงินไหลออกช่วง 5 เดือนแรกกว่า 7 หมื่นล้าน
  • อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยแนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ประเมินไว้ว่าจะขยายตัว 6-7% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะติดลบ แต่ผลจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในตลาดหลัก ทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรปกลับมาขยายตัวดีขึ้น และยังมีคำสั่งซื้อสินค้าของไทยเข้ามาต่อเนื่องทำให้มั่นใจว่าภาพรวมการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 3.5% แน่นอน
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ในไตรมาส 2 ว่าแม้ดัชนีจะทรงตัวระดับเดียวกับไตรมาสก่อนที่ 36.6 ซึ่งยังต่ำกว่าระดับปกติที่ 50 แต่ดัชนีความเชื่อมั่นรายไตรมาสในอีก3 เดือน เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 55.7 จาก 51.1 ซึ่งเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดปัญหาการเมืองช่วงปลายปี 2556 ขณะที่ดัชนีล่วงหน้า 3 เดือน ของเดือน มิ.ย. ยังเพิ่มเป็น 62.2 จาก 51.7 ในเดือนก่อนหน้า
  • อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการออกประกาศโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ แม้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.59 แต่ต้องเร่งออกประกาศเพื่อให้ผู้ประกอบการรับทราบรายละเอียด จะได้มีเวลาในการเตรียมวางแผนผลิตรถยนต์ที่จะเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษน้อยจะเสียภาษีต่ำ แต่หากปล่อยมลพิษมากจะถูกเก็บภาษีมาก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SIRI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 2.76 บาท หลังปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น 8% สำหรับปีนี้และ 17% สำหรับปีหน้า พร้อมคาดกำไรหลัก 2Q57 จะดีกว่าที่ตลาดคาดเป็น 501 ล้านบาท ฟื้นตัวขึ้นเทียบกับ 1Q57 ที่ขาดทุน 42 ล้านบาท และเพิ่ม 3% y-o-y เพราะมีรายได้โอนสูงไปถึง 5.9 พันล้านบาท คงเป้ารายได้และยอดขายปีนี้ที่ 34 และ 30 พันล้านบาทตามลำดับ แต่เลื่อนเปิดคอนโดใหม่ไป 4Q57 โดยไม่เน้นเป้ายอดขายเท่ากับการควบคุมค่าใช้จ่าย เพราะ Backlog ปี 58 มีสูงอยู่แล้ว
  • JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท ราคาหุ้นช่วง 3 วันปรับตัวดีกว่ากลุ่ม ปัจจัยหนุนจากการซื้อหุ้นคืนช่วยค้ำราคาหุ้น ประกอบกับไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยลบที่กดดันกลุ่มสื่อสาร ส่วนการที่ JAS มีประเด็นฟ้องร้องจาก TT&T มองยังไม่กระทบปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกระบวนการใช้เวลานาน จึงคงมุมมองบวกต่อการรักษาระดับอัตรากำไรที่ค่อนข้างสูงสม่ำเสมอ ยังเป็น Growth stock ที่น่าสนใจ
  • CK(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 22.40 บาท แม้เลื่อนประมูลงงานภาครัฐออกไปจะได้รับผลกระทบต่อการรับรู้รายได้ในอนาคตน้อยกว่ากลุ่ม แต่ CK แข็งแกร่งจากงานในมือที่สูงกว่า 1.1 แสนล้านบาท และมีโอกาสรับงานเพิ่มอีก 2.1 หมื่นล้านบาทใน 2H57 จากงานโรงไฟฟ้าและเขื่อนน้ำบาก ระยะสั้นอาจมีปัจจัยบวกจากโอกาสได้งานรถไฟทางคู่คลอง19 แก่นคอยและรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่ ขณะที่ยังมีผลตอบแทนจากเงินลงทุนจากบริษัทลูกทั้ง TTW BECL BMCL CKP
  • DCC(กรุงศรี)"ซื้อ"เป้า 64 บาท ปัจจัยบวกที่เฝ้าติดตามคือแนวโน้มผลประกอบการกลับมาเติบโต YoY ใน 2H57 ประกอบกับเป็นหุ้นที่ให้อัตราตอบแทนเงินปันผลอย่างน้อย 5.5% ต่อปีสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ SET ที่ 3% ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2Q57 เท่ากับ 0.78 บาทต่อหุ้น(XD วันที่ 5 ส.ค.57)ได้คงประมาณการผลประกอบการทั้งปี 57 กำไรสุทธิจะเติบโต 3.6%YoY มาอยู่ที่ 1.34 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายในประเทศเริ่มกลับมาเติบโตเป็นบวก 5%YoY ใน มิ.ย.57 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเติบโตใน 2H57
  • LH(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 12 บาท คาดกำไรปกติ 2Q14 จะเพิ่มขึ้น 18% Q-Q และ 1% Y-Y เราปรับคาดการณ์กำไรปกติปี 2014-15 ขึ้น 3.2% และ 6.4% เป็นเติบโต 4% ในปีนี้และเติบโต 11% ในปี 2015 จากแนวโน้มการขายที่ฟื้นดีกว่าที่คาดไว้เดิม และคาดจ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรก 0.20 บาท/หุ้น (Yield 2%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ