"ปัจจุบันทางบริษัทได้มองหาธุรกิจใหม่นอกจากธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ ที่มีตอนนี้คือการเป็นผู้พัฒนาที่ดินทำคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขอเช่าที่ดันกับทางการรถไฟฯ โดยปีนี้เชื่อว่าจะได้เห็น 1 แห่ง"นายศิริพงศ์ กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ EMC เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ 1 แห่ง ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร
นายศิริพงศ์ กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถกลับมามีผลประกอบการที่เป็นบวกได้ จากปีก่อนที่ขาดทุนสูงถึง 1,348.54 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯหันมาทำงานที่ถนัดมากขึ้น คือ งานก่อสร้างโครงการแนวราบ ซึ่งช่วงนี้มีงานเข้ามาค่อนข้างมาก และสามารถเลือกรับงานในกลุ่มที่ทำกำไรได้ดี อาทิ งานสร้างโรงงาน ประกอบกับ ช่วงต้นปีที่ผ่านมางานประมูลต่างๆ ชะลอออกไป บริษัทจึงได้มีการปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้นด้วยการขยายธุรกิจไปยังภาคอสังหาริมทรัพย์
"ปีนี้เราเชื่อว่าผลประกอบการของเราจะกลับมา turnaround หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมางานประมูลต่างๆที่ชะลอออกไป เราก็ได้มีการปรับกระบวนการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการหันกลับมาทำงานที่เราถนัดมากกว่าคืองานที่เป็นแนวราบ ในขณะเดียวกันเราก็ได้เข้ามามองการบริหารความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงที่ดีมากขึ้น เช่นการที่เราเข้าไปทำอสังหาฯ ที่มีผลตอบแทนค่อนข้างดี เช่น การเข้าไปทำคอมมูนิตี้มอลล์ เราก็มีความสนใจที่ดินที่เป็นพื้นที่เช่า เพราะจะไม่มีภาระเรื่องของต้นทุนที่ดินมากนัก"นายศิริพงศ์ กล่าว
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปี 56 ที่มีรายได้ 1,677.27 ล้านบาท โดยขณะนี้มีงานในมือ(Backlog) ประมาณ 2.5 พันล้านบาทที่จะสามารถรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 70% และช่วงที่ผ่านมายังได้รับงานใหม่มาอีก 2 งาน คือ งานสร้างอาคารของโรงเรียนวชิราวุธมูลค่าราว 450 ล้านบาท และงานจากเทสโก้ โลตัส มูลค่าราว 105 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ 3 งานคือ คอนโดมิเนียม 2 แห่ง และคอมมูนิตี้มอลล์ 1 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท โดยมีโอกาสที่จะได้รับงานเกิน 50% ปัจจุบันอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประมูล ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทก็ยังเตรียมจะเข้าประมูลงานใหม่ๆ อีกมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4-5 พันล้านบาท
"เราตั้งเป้ารายได้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งเรามีงานอยู่ในมือแล้วและจะสามารถรับในปีนี้ถึง 70% ปีนี้เป็นปีที่เราเริ่มกลับมารับงานอีกครั้งหลังจากปีก่อนที่เราชะลอการรับงานออกไปเพื่อที่จะเคลียร์โครงการเก่าๆให้จบก่อน ช่วงที่ผ่านมาเราก็ได้งานใหม่มาแล้ว 2 งาน และเราก็ยังประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และงานใหม่ๆที่เข้ามาก็จะมารับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ ทำให้เรามั่นใจว่ารายได้ของเราจะเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนของมูลค่างานที่เหลือที่ที่รับรู้ในปีนี้ไม่ทันก็จะไปเป็น Backlog ให้กับปีหน้าเพื่อที่จะให้บริษัทฯมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"นายศิริพงศ์ กล่าว
สำหรับบริษัท SANKEN-EMC ที่บริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท SANKEN SETSUBI KOGYO ปัจจุบันอยู่ระหว่างประมูลงานของบริษัทญี่ปุ่นในไทยจำนวน 2 งาน ซึ่งจะเป็นงานวางระบบประกอบอาคาร มูลค่าราว 500-600 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลทั้งหมดในช่วงปลายไตรมาส 3/57-ต้นไตรมาส 4/57
"จริงๆแล้วบริษัทร่วมทุนนี้เราเริ่มงานจริงๆก็ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้งานปรับโรงงานญี่ปุ่นเข้ามาเล็กๆน้อยๆ มูลค่าไม่มากเพียง 10-20 ล้านบาท แต่เป็นการปูพื้นฐาน เพราะลูกค้าของ SANKEN ที่ญี่ปุ่นก็เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยเยอะ อาทิ Panasonic เราจึงมองว่าจากความเข้มแข็งของ SANKEN ในญี่ปุ่นจะส่งผลตีต่อ SANKEN-EMC ในประเทศไทย"นายศิริพงศ์ กล่าว