เช้านี้ GRAMMY และ CTH ลงนามในสัญญาข้อตกลงรวมบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี (GMM B) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GRAMMY ที่ทำธุรกิจเพย์ทีวี กับ บริษัท ซีทีเอช แอล ซี โอ จำกัด โดยซีทีเอช แอล ซีโอ จะเข้าถือหุ้น 100% ใน GMM B ขณะที่บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ GRAMMY จะเข้าถือหุ้น 10% ใน CTH ซึ่งจะทำให้ CTH เป็นบริษัทแม่ในการดำเนินธุรกิจเพย์ทีวีของทั้ง GMM B และ ซีทีเอช แอล ซี โอ
นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มงานแพลตฟอร์ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ในเครือ GRAMMY เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/57 GRAMMY จะยังมีผลขาดทุนอยู่เนื่องจากต้องแบกรับภาระขาดทุนธุรกิจเพย์ทีวีของ GMM B แต่ตั้งแต่ไตรมาส 3/57 เป็นต้นไป GRAMMY จะไม่ต้องรับผลขาดทุนของธุรกิจเพย์ทีวีแล้วหลังขาย GMM B ให้กับบริษัท ซีทีเอช แอล ซี โอ จำกัด
ส่วนทั้งปี 57 GRAMMY จะพลิกเป็นกำไรหรือไม่ยังไม่ฟันธง เพราะไตรมาส 1/57 มีผลขาดทุน 791 ล้านบาท และ ไตรมาส 2/57 ก็ยังต้องแบกรับผลขาดทุนธุรกิจเพย์ทีวีอยู่ แต่จะไปลุ้นไตรมาส 3/57 ที่เชื่อว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้น เพราะธุรกิจเดิมของบริษัททั้งมีเดียและเพลงนั้นในภาพรวมเติบโตได้ดี และยังไม่ต้องรับผลขาดทุนของ GMM B แล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไปส่งผลดีในปี 58 อย่างเต็มที่
"ภาพรวมปีนี้แนวโน้มไตรมาส 2 ยังขาดทุนอยู่ แต่ไตรมาส 3 ผลขาดทุนจาก GMM B จะไม่มีแล้ว ยกไปทันที ซึ่ง GMM B ขาดทุนอยู่ 1,000 ล้านบาท ก็หวังว่าปีนี้ผลขาดทุนของ GRAMMY จะลดลงจากปี 56 ส่วนจะเป็นกำไรหรือไม่ยังไม่ฟันธง แต่ธุรกิจเดิมอย่างเพลงดีขึ้น"นายฟ้าใหม่ กล่าว
ทั้งนี้ GRAMMY และบริษัทย่อย ขาดทุนปี 56 เท่ากับ 1.28 พันล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 2.27 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 322.06 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.61 บาท
สำหรับการที่บริษัทแซท เทรดดิ้ง จำกัด เข้าไปถือหุ้นของ CTH ในสัดส่วน 10% นั้น มองว่าคุ้มค่าการลงทุนในอนาคต แม้ CTH จะมีผลขาดทุนอยู่ก็ตาม แต่ตามมาตรฐานบัญชีไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนเข้ามา อีกทั้งจะทำให้ธุรกิจเพย์ทีวีทีฐานลูกค้าใหญ่ขึ้นเป็น 5 ล้านกล่อง และช่วยลดต้นทุนในการบริหารงานได้มาก ซึ่งน่าจะทำให้ธุรกิจเพย์ทีวีสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
"การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ CTH ครั้งนี้เป็นอินเวสเม้นท์ที่คุ้มค่าการลงทุนเพราะหลังควบรวมแล้วมาร์เก็ตแชร์ของ GMMB ในธุรกิจเพย์ทีวีน่าจะครึ่งหนึ่งของตลาดรวม จากเดิม 1 ส่วน 4 รวมทั้งช่วยลดต้นทุนในส่วนที่มีความทับซ้อนในการบริหารงาน แม้ CTH จะยังขาดทุนอยู่ แต่เราเข้าไปถือ 10% ตามมาตรฐานบัญชีไม่คอนโซล แต่มองในแง่การลงทุนอนาคตว่า CTH น่าจะทำให้ธุรกิจเพย์ทีวีดีขึ้นมาก ซึ่งการลงทุนเรามองเรื่องคอนเทนท์ Synergy ธุรกิจร่วมกันที่จะทำให้เพย์ทีวีกำไรดีขึ้นมาและผลตอบแทนที่จะได้กลับมามากกว่า"นายฟ้าใหม่ กล่าว
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CTH กล่าวว่า หลังจากการรวมบริษัท ซีทีเอช แอล ซี โอ จำกัด กับ GMM B แล้ว CTH จะเตรียมนำ GMM B เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปีข้างหน้า เพราะจากนี้ไปแนวโน้มรายได้จะเติบโตเป็น 10 เท่าตัว จากปี 56 ที่ GMM B มีรายได้ราว 600-700 ล้านบาท แต่เชื่อว่าสิ้นปีนี้รายได้น่าจะเติบโตก้าวกระโดดไปที่ 6,000-7,000 ล้านบาท เพราะกลยุทธ์การขายกล่องรับสัญญาณเพย์ทีวีในปีนี้มีหลายช่องทาง ทั้งการขายผ่านตัวแทนขาย และพันธมิตรทางธุรกิจ เมื่อรวมกันแล้วจะสามารถกระจายสินค้าได้มากขึ้นและมีกำลังต่อรองมากขึ้นด้วย
ในปีนี้ CTH ตั้งเป้าจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 2-3 ล้านกล่อง จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 5 แสนถึง 1 ล้านกล่อง คาดสิ้นปีนี้จะเห็นเพิ่มเป็น 3 ล้านกล่อง หลังจากบริษัทจะมีการจัดโปรโมชั่นและมีการถ่ายทอดฟุตบอลยูโร รวมถึงกีฬาชนิดอื่น นอกจากนี้ CTH ตั้งเป้าจะมีพันธมิตรเพิ่มขึ้นอีก 9 ราย รวม GMMB เป็น 10 ราย คาดว่าสื้นปีนี้จะมีฐานผู้ชม 10 ล้านราย "การรวม 2 บริษัทเข้าด้วยกันจะทำให้คอนเทนที่อยู่ในมือ 2 กลุ่มนี้มากที่สุดในทุกกลุ่ม การมีพันธมิตรจะมีฐานลูกค้ากระจายค่อนข้างมาก CTH จะมีพาร์ทเนอร์ 10 ราย เมื่อรวมกับ GMMB คนดูสิ้นปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านราย เป็นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพื่อมีโอกาสนำเสนอสิ่งดีๆ ในตลาด ขณะที่ลูกค้าทั้ง 2 ฝ่ายสามารถดูรายการผ่านทั้ง 2 แบรนด์ได้" นายเชิดศักดิ์ กล่าว