สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB236A (รุ่นอายุ 4.9 ปี, 2.9 ปี และ 8.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,930 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บ้านปู(BANPU207A) มูลค่า 307.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย)จำกัด(TLT158A) มูลค่า 183.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)(SCC19OA)มูลค่า 155.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 646.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67.9% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,745 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 579 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 17,417 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.04% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ โดยพันธบัตรรัฐบาล รุ่น Benchmark อายุ 15 ปี ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ที่ประมูลวันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 4.75 เท่าของวงเงินประมูล สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้ ยังคงมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่องทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ(NET BUY) เท่ากับ 17,417 ล้านบาท(ทั้งนี้เป็นการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ประมูลวันนี้ ประมาณ 3,000 ล้านบาท และเป็นมูลค่าการเข้าซื้อพันธบัตร ธปท.ที่ประมูลวันก่อนหน้าอีกประมาณ 3,700 ล้านบาท)