โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ศุภาลัย (SPALI) พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้น หลังคาดกำไร 2H/57 จะโดดเด่นมากหนุนทั้งปีกำไรโตสูงและดีต่อเนื่องปี 58 จากยอดขายรอโอน (Backlog)สูงที่ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สามารถรับรู้รายได้ใน 2 ปี อีกทั้ง บริษัทยังเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก หนุนยอดพรีเซลดีขึ้น อีกทั้งอัตราผลตอบแทนปันผลสูง 4.5% ราคาหุ้นยังไม่แพง งบดุลแข็งแกร่ง เป็น Top pick ในกลุ่ม
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 28.10 บล.เอเซีย พลัส ซื้อ 27.30 บล.กรุงศรี ซื้อ 28.00 บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 27.03 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 28.00 บล.เคเคเทรด ซื้อ 27.40 บล.ไอร่า ซื้อ 31.00 บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ซื้อ 30.00
น.ส.จันทร์เพ็ญ ศิริธนารัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับราคาพื้นฐานหุ้น SPALI เพิ่มขึ้นเป็น 28.10 บาท จากเดิม 24.00 บาท เนื่องจากปีนี้กำไรเติบโตมาก โดยคาดกำไรสุทธิเติบโตถึง 43% และปีหน้าจะเตืบโตต่ออีก 17% ถือว่าสูงเป็นอันดับต้นของอุตสาหกรรม
ยอดขายรอโอน(Backlog)ปัจจุบันที่ 4 หมื่นล้านบาทสูงสุดในประวัติศาสตร์ สามารถรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่อง ในแง่ของผลประกอบการค่อนข้างดีจาก Backlog นี้ และแผนการเปิดโครงการใหม่จะมากขึ้นในครึ่งปีหลัง ขณะที่หลายๆ บริษัทจะเปิดโครงการใหม่น้อยลงในปีนี้ แต่ SPALI เปิดเพิ่มขึ้นมากน่าจะทำให้พรีเซลดีขึ้นมาก
"แนวโน้มการเติบโตกำไรดีมาก งบดุลแข็งแกร่ง ประเมินมูลค่าหุ้นยังไม่แพง เทียบด้วย P/E ปี 58 ที่ 8.8 เท่า เทียบกับ growth ปีนี้ 43% ปีหน้า 17% และจ่ายปันผลได้สูงอยู่ที่ 5% ราคาเป้าหมาย 28.10 บาท เป็น Top pick ในกลุ่มที่อยู่อาศัย" น.ส.จันทร์เพ็ญ กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส มองว่า ในปีนี้กำไรของ SPALI จะเติบโตก้าวกระโดด 63% ด้วย Backlog รองรับแล้วกว่า 90% จากการส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 6 แห่ง
"ปีนี้กำไรโต 63% เทียบปีก่อน จะเห็นกำไรที่โดดเด่นในช่วงครึ่งหลังเพราะมีการส่งมอบคอนโดใหม่ 6 โครงการ ขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 4.5% ส่วนปี 58 คาดว่ากำไรยังโตต่อเนื่อง 17% จาก Backlog สูง
ส่วนบทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ปรับมูลค่าพื้นฐานหุ้น SPALI เพิ่มขึ้น 20% เป็น 28 บาท เพื่อสะท้อนแนวโน้ม Presales ที่จะกลับมาเติบโตใน 2H57 หนุนผลประกอบการปี 57 เติบโตสูงกว่ากลุ่ม และมี Backlog รองรับในสัดส่วนสูง สร้างความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเติบโตของผลประกอบการในอีก 2 ปีข้างหน้า รวมถึงมีอัตราตอบแทนเงินปันผลที่จูงใจ 3.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ SET ที่ 3%
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)แนะ"ทยอยซื้อ"ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 27.03 บาท โดยมองแนวโน้มการเติบยังเติบโตต่อเนื่องไปถึงปีหน้า Backlog ล่าสุดมียอดรอโอน 2Q57-4Q57 ถึง 14.7 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 86% ของประมาณการ ส่วนที่เหลืออีก 3 พันล้านบาทน่าจะมาจากยอดจองบ้านเป็นหลักใน 2H57
หากดูจากยอดจอง 2Q57 ที่ได้ 2.2 พันล้านบาท ยังเชื่อว่าเป้าโอนปีนี้ที่เติบโต 64% ยังเป็นไปได้ ท่ามกลาง Margin ทรงตัว รายจ่ายการตลาดเพิ่มเล็กน้อย คาดกำไรเติบโต 53%
ในเวลาเดียวกัน SPALI ยังมี Backlog รอโอนปีหน้ากว่า 15 พันล้านบาท หากประเมินยอดจองบ้านปีหน้าทรงตัวจากปีนี้ที่ 8 พันล้านบาท และการคาดหมายการขายสต๊อกโครงการคอนโดฯเก่า เชื่อว่ายอดโอนปีหน้ามีแนวโน้มจะไปได้ถึง 24.5 พันล้านบาท เพิ่ม 21% ทำให้กำไรปีหน้าจะเติบโตได้ต่อเนื่องอีก 12%
เนื่องจากยอดโอนปี 57 จะเข้ามามากใน 2H57 ทำให้การโอน 2Q57 ไม่มากแค่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งลดลง 10% q-q และ Margin ทรงตัว แต่มีรายจ่ายการขายและบริหารเพิ่ม ทำให้กำไรลดลง 36% เป็น 467 ล้านบาท อย่างไรก็ดี กำไรไตรมาสนี้ยังดีขึ้น 54% y-y ตามยอดโอนที่ยังเพิ่มขึ้น 40% ทั้งนี้ ฐานโอน 2Q56 ต่ำมากแค่ 1.8 พันล้านบาท เพราะเป็นการโอนแต่โครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ แต่ยอดโอน 2Q57 ยังมีการโอนต่อเนื่องในโครงการคอนโดฯจาก 1Q57 ทางบริษัทเชื่อว่าจะรักษา Margin ได้ที่ 40% จึงปรับประมาณการขึ้น 5.7%