พร้อมมองว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าดัชนี SET มีโอกาสที่จะทะลุ High เดิมที่ 1,700 จุด
การลงทุนในตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างมากหลังเกิดรัฐประหารและมีรัฐธรรมนูญชั่วคราว อีกทั้งกำลังจะมีสภานิติบัญญัติ สภาปฏิรูป และคณะรัฐมนตรี สิ่งเหล่านี้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น สะท้อนว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม แม้ต่างชาติจะซื้อสุทธิในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ถ้ามองตั้งแต่ต้นปีจนนถึงขณะนี้(year to date) ยังเป็นการขายสุทธิเมื่อเทียบกับตลาดภูมิภาคอย่าง ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียที่มียอดซื้อสุทธิระดับ 10,000 ล้านบาท สาเหตุที่ต่างชาติซื้อหุ้นไทยไม่มาก เพราะยังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่ ทำให้นักลทุนสถาบันต่างชาติบางส่วนไม่สามารถเข้ามาลงทุน ดังนั้น หากยกเลิกกฎอัยการศึกน่าจะทำให้เงินทุนไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยได้อีกมหาศาล
"ปี 58 ดัชนีฯน่าจะไปที่ 1,630 จุด ได้และมีโอกาสที่จะเบรค New High เดิมที่ 1,650 ได้ แต่ระหว่างทางต้องมีการปรับฐาน ในระหว่างปรับฐานก็เป็นโอกาสเข้าซื้อ"นายกวี กล่าว
นายกวี กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นในปี 58 จะกลับมาเทรดที่การมองพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน และตลาดหุ้น เมื่อเทียบกับตอนนี้คนเล่นอนาคต ซึ่งปีหน้าในแง่ของพื้นฐานทั้งเศรษฐกิจ และการบริโภคก็จะกลับมาสู่ภาวะปกติ ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็ไม่น่าจะมีประเด็นใดรุนแรง
แนะนำหุ้นที่น่าลงทุนในช่วงตลาดฯปรับฐาน เป็นหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบริโภคในประเทศ ส่วนกลุ่มยานยนต์คงจะตามมาทีหลัง ขณะที่กลุ่มพลังงาน มองว่าน่าจะดีตามเศรษฐกิจที่ฟื้น แต่ราคาพลังงานยังไม่ปรับขึ้นมา ด้านกลุ่มโรงพยาบาลก็ราคาค่อนข้างแพงแล้ว ควรรอให้ย่อตัวก่อนจึงค่อยเข้าลงทุน