ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 77,715 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 24, 2014 18:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 77,715 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 48,282 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 62.1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 21,646 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 27.9% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,478 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB15DA และ LB21DA(รุ่นอายุ 4.9 ปี,1.4 ปี และ 7.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,047 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)(DTAC167A) มูลค่า 547.7 ล้านบาท

2. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)(CPALL16OB) มูลค่า 205.0 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)(PTTEP296A) มูลค่า 155.3 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 907.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,040 ล้านบาท

2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,370 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,506 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.07% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3-10 ปี ประมาณ 1-3 bps. ล่าสุด IMF ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สำหรับปี 2014 ลงมาที่ 1.7% จากประมาณการเดิมในเดือน มิ.ย. ที่ 2.0% ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน ก.ค. ที่ประกาศออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 52.0 จาก 50.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 12,506 ล้านบาท (ทั้งนี้มูลค่าส่วนใหญ่เป็นการซื้อต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ