นางสาวปิยนุช มริตตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ซีเคพาวเวอร์(CKP)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/57 ดีกว่าไตรมาส 2/56 เพราะมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่นโครงการ 1(BIC1)ที่เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD)ได้ตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.56
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 7 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 5,650 ล้านบาท และคาดว่ากำไรปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 218 ล้านบาท
ขณะเดียวกันโครงการในอนาคตยังเดินหน้าตามแผน ได้แก่ โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น โครงการ 2(BIC2) ที่มีกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 58 จากนั้นจะ COD ในปี 60 ขณะเดียวกันกำลังเจรจาสัญญาของโครงการน้ำบากทั้งสัญญางานก่อสร้างและสัญญาสัมปทาน คาดว่าปลายปีนี้จะได้ข้อสรุป มีกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ ซึ่งจะ COD ในปี 61
นอกจากนี้ ยังมีโครงการไซยะบุรี ขนาดกำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ที่เป็นโครงการอนาคตของบริษัท โดยจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 62
นางสาวปิยนุช เห็นว่า แผน PDP ที่ปรับปรุงใหม่ใกล้จะได้ความชัดเจน ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมที่จะเข้าประมูลโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP)โดยได้เตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว 8 แห่ง รวมทั้งมีโอกาสที่จะเพิ่มโครงการพลังงานทดแทน ได้แก่ โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์
"รอความชัดเจนภาครัฐ แผน PDP กำลังจะออก...แต่ไม่รู้จริงๆว่าทำไมราคาหุ้นปรับขึ้นมาเพราะแผนการดำเนินงานเหมือนเดิม โครงการในอนาคตก็เหมือนเดิม"นางสาวปิยนุช กล่าว