จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองว่ามีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในไทยและยุโรปคือ การคาดการณ์เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากมีรัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นไทยยังซื้อขายที่ระดับ P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นในภูมิภาค และการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างประเทศอยู่ระดับต่ำจึงมีโอกาสที่การไหลเข้าของเม็ดเงินเพิ่มได้ในอนาคต
ด้านภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยุโรปมีการฟื้นตัวในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาถึงไตรมาสแรกของปีนี้ นำโดยเศรษฐกิจของเยอรมนี และสัญญาณการฟื้นตัวของอิตาลีและสเปนโดยเฉพาะการจ้างงาน การค้าปลีก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาของบริษัทเอกชนในดัชนี Bloomberg European 500 Index สูงกว่าผลประกอบการของสี่ไตรมาสก่อนหน้า และดีกว่าที่คาดการณ์โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร
สำหรับกองทุนเปิด SI5E1 จะทยอยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุน 2 ครั้งภายใน 10 เดือนแรก โดยครั้งแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.55 บาทขึ้นไป บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น และครั้งที่สองเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.15 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOVในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 110 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว แต่หากเกิน 10 เดือน กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 10 ต่อไป
กองทุนเปิด SI5E1 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสของผลตอบแทนที่ดีจากการลทุนในตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ และการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศ