ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์ค จำกัด (BMN) ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 58 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) 3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3-4 ปีนี้
นายสมบัติ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์ค จำกัด(BMN) และในฐานะผู้อำนวยการสำนักบริการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) เปิดเผยว่า BMCL จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 59-60 จากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อในช่วงปลายปี 59 ซึ่งขณะนี้ก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว เนื่องจากจะทำให้รายได้ในปี 59 เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงปี 60 จะรับรู้รายได้ที่เพิ่มเข้ามาได้เต็มที่ทั้งปี
ประกอบกับ บริษัทจะได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้มียอดผู้โดยสารรถไฟใต้ดิน(MRT)จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ในปี 57 คาดว่ายอดผู้โดยสาร MRT จะเติบโต 7-10% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 แสนคน/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ย 2.3 แสนคน/วัน แต่หากเป็นช่วงวันทำงาน (วันจันทร์-วันศุกร์)ยอดผู้โดยสารจะอยู่ที่เฉลี่ย 3 แสนคน/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.7 แสนคน/วัน
นายสมบัติ กล่าวว่า BMCL มีแผนจะนำบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์ค จำกัด (BMN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่ร้านค้าในรถไฟฟ้าใต้ดิน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 3-4/58 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)ที่อยู่ระหว่างการคัดเลือกจาก 2-3 ราย ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้
ปัจจุบัน BMN มีทุนจดทะเบียน 254 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท เพื่อจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET)ได้ ซึ่งก็อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างของบริษัท และเตรียมความพร้อม
BMN ตั้งเป้ารายได้ปี 57 จะเติบโตได้ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 400 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโฆษณา มีสัดส่วนรายได้ราว 65% และธุรกิจให้เช่าร้านค้าปลีก และธุรกิจโทรคมนาคม ที่มีสัดส่วนรายได้รวมกัน 35% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น 10-15% จากปีก่อนอยู่ที่ในระดับเกือบ 10%
"ในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจโฆษณาอย่างมาก โดยคิดสัดส่วนเป็น 50% จากรายได้ทั้งหมด และในธุรกิจให้เช่าร้านค้าปลีก ปัจจุบันเปิดให้เช่าพื้นที่แล้วจำนวน 5 สถานี และปีหน้าจะเปิดอีก 1-2 สถานี คาดว่าในปี 59-61 จะทยอยเปิดให้ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ 11 สถานี โดยร้านค้าที่จะมาเช่าพื้นที่จะเป็นร้านค้าที่ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคมจะเป็นพื้นที่ตั้งระบบเน็ตเวิร์คปล่อยสัญญาณ wifi"นายสมบัติ กล่าว