(เพิ่มเติม) "เอ็กโซติค ฟู้ด"เสนอขายหุ้น IPO 70 ล้านหุ้นเข้าตลาด mai ภายใน ส.ค.57

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 28, 2014 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด(XO) จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)จำนวน 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ภายในเดือน ส.ค.57

ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 175 ล้านบาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 140 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 280 ล้านหุ้น

เอ็กโซติค ฟู้ด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องซอสปรุงรสและ น้ำจิ้มต่างๆ, ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงเครื่องประกอบอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปอื่นๆ ซึ่งมีสินค้ากว่า 250 สูตร ที่ส่งขายไปยังประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศ ภายใต้ตราสินค้า EXOTIC FOOD, THAI PRIDE, FLYING GOOSE, COCO LOTO, COCO WATER และอื่นๆ ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกกว่าร้อยละ 99 ของ รายได้ทั้งหมด

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ XO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน XO โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์, ก่อสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งบริษัทได้ซื้อที่ดินไว้ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ตั้งแต่ปี 55 เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งชำระคืนเงิน กู้ยืมจากสถาบันการ เงินและใช้เป็นเงิน ทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับออเดอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเตรียมรุกตลาดอเมริกาและตลาดเอเชียเพิ่มเติม นอกเหนือจากตลาดหลักที่ยุโรป นอกจากนี้ บริษัทได้ออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาลูกค้าใหม่เพิ่มเติม และสร้างทีมฝ่ายขาย เพื่อรุกแต่ละแบรนด์ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจึงเชื่อว่าจะสนับสนุนให้เป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่วางไว้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าอีก 25% จากปี 56 ซึ่งอยู่ที่ 608.65 ล้านบาทสำเร็จ

“แผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรใหม่คาดว่ามีมูลค่ารวมประมาณ 250 ล้าน บาท แบ่งเป็นลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ 80 ล้านบาท และซื้อเครื่องจักรใหม่ 170 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 57 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี และเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/58 สำหรับการลงทุนครั้งนี้จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่ต่ำกว่าอีกเท่าตัวจากกำลังการผลิตของแต่ละกลุ่มสินค้าในปัจจุบันซึ่งใกล้เต็มแล้ว เพื่อสนับสนุนยอดขายและกำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน"นายจิตติพร กล่าว

นายจิตติพร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในปี 57 และปี 58 เนื่องจากยอดขายต่างประเทศดีมาก และไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ประกอบกับ บริษัทมีการเพิ่มพนักงานการตลาด เพื่อให้มีการประสานงานกับลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัท จากก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการติดต่อประสานงานกับลูกค้ามากนัก

นอกจากนี้ บริษัทฯมีสัดส่วนการส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยแบ่งเป็นยุโรป 75% และประเทศอื่นๆอีก 25% โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนประเทศอื่นๆนอกเหนือจากยุโรปให้เพิ่มขึ้นเป็น 35% ซึ่งทางบริษัทมีแผนจะออกสินค้าใหม่เพื่อเจาะตลาดสิงคโปร์ อินโดนิเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันมีแผนออกสินค้าใหม่เพื่อบุกตลาดจีนในปี 59 รวมถึงจะเน้นขยายตลาดสหรัฐไปพร้อมกันด้วย

นายจิตติพร กล่าวอีกว่า ในปีนี้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทจะกลับเข้าสู่ปกติที่ 8% จากไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.8% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปี 56 อยู่ที่เพียง 1.5% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบบัญชีแบบใหม่

"ในปีนี้อัตรากำไรสุทธิของเราจะกลับเข้ามาอยู่ในระดับที่ปกติจากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบบัญชีใหม่ ในขณะเดียวกันปีนี้เราได้มีการควบคุมต้นทุนมากขึ้น และเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น"นายจิตติพร กล่าว

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน XO กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้พิจารณานับหนึ่งไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว

"ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องปรุงรสที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และความต้องการสินค้าบริษัทฯทั้งในกลุ่มลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ที่ เข้ามาเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงโอกาสของ XO ที่จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต"นายวรชาติ กล่าว

ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ FSS มั่นใจว่าหุ้น XO จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อหุ้นครั้งนี้จำนวนมาก ด้วยความโดดเด่นในปัจจัยพื้นฐานของ XO เอง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่หลากหลาย บรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น ช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง รวมทั้งอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรส ที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ เพื่อผลักดัน“ครัวไทย สู่ครัวโลก"

สำหรับผลประกอบการล่าสุดงวดไตรมาส 1/57 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 179.17 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 114.34 ล้าน บาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 64.83 ล้านบาท หรือ 56.7% กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 59.26 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 22.09 ล้านบาท คิดเป็นการปรับ เพิ่มขึ้น 37.17ล้านบาท หรือ 168.27% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14.02 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนอยู่ที่ 2.95 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ