ทั้งนี้ บริษัทแต่งตั้งให้ บล.ฟินันเซียไซรัส เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านหุ้น แบ่งขายให้กับผู้ถือหุ้นสามัญของ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น(FORTH) จำนวนไม่เกิน 96 ล้านหุ้น และขายให้แก่ประชาชนทั่วไป 104 ล้านหุ้น
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน"บุญเติม"ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็นราว 4 หมื่นตู้ จากปัจจุบันมีอยู่ 3.7 หมื่นตู้ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.5 หมื่นตู้ในปี 58 และ 6 หมื่นตู้ในปี 59 โดยตั้งงบลงทุนปีนี้ในการเพิ่มจำนวนตู้เติมงินไว้กว่า 400 ล้านบาท ขณะที่งบด้านการตลาดเพื่อการประชาสัมพันธ์อยู่ที่ 20 ล้านบาท
บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตมาที่ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่ายอดเติมเงินจะทะลุ 1 หมื่นล้านบาทจากการขยายจำนวนตู้เพิ่มมากขึ้น โดยไตรมาส 1/57 ทำรายได้แล้ว 251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 พร้อมกันนี้คาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปี 57 จะอยู่ที่ 11-15% จากไตรมาส 1/57 ทำได้ 11% แล้ว
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากค่าธรรมเนียม 6-7% ของยอดเติมเงิน และค่าคอมมิชชั่นที่ได้จากโอเปอเรเตอร์ต่างๆ 10-12% ของยอดเติมเงินโทรศัพท์มือถือ
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนก.ย.นี้เป็นต้นไป โดยจะเป็นตู้กดน้ำแบบ 2 IN 1 สามารถกดน้ำดื่มและเติมเงินได้ในเครื่องเดียว และตู้เคาท์เตอร์เซอร์วิสที่สามารถจ่ายบิลต่างๆได้ ซึ่งเขื่อว่าจะได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถจะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้
"ตลาดยังมีโอกาสพอสมควรในการเติมเต็มช่องทางของการเติมเงินมือถือที่จะรุกเข้าไป ซึ่งปีนี้ก็ตั้งเป้าขยายตู้เพิ่ม 10,000 ตู้จากปีก่อน 3.2 หมื่นตู้ มียอดเติมเงินราว 7,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท จะส่งผลให้ยอดเติมเงินในปีนี้น่าจะทะลุ 1 หมื่นล้านบาทได้"นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมองโอกาสขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย โดยขณะนี้บริษัทแม่ หรือ FORTH ได้รุกตลาดฟิลิปปินส์บ้างแล้ว ซึ่งบริษัทมองว่าในอนาคตหรือมากกว่า 3 ปีขึ้นไปนับจากนี้จะขอสิทธิจากบริษัทฯแม่เพื่อเข้าไปบริหารจัดการธุรกิจตู้เติมเงิน ซึ่งในฟิลิปปินส์มีจำนวนตู้เติมเงินราว 1,000 ตู้ โดยใช้ชื่อว่า U-Load อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองแนวโน้มการเติบโตในประเทศไทยยังไปได้อีก เพราะมีอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่ยังมีโอกาสในการรุกเข้าไป