ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินของบริษัท เนื่องจากได้ทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ทั้งหมดแล้ว เพราะเราซื้อขายเป็นดอลลาร์ทั้งหมดเป็นเพียงรูปแบบบัญชี
"ไม่ว่าเงินบาทจะแข็งจะอ่อนไม่กระทบ เพราะเราทำ hedging ทั้งหมด"นายอนุสรณ์ กล่าว
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาหาซื้อกิจการในยุโรป แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดของยุโรป ดังนั้น ในเดือน ส.ค.คงจะเข้าเจรจาอีกครั้ง และมองว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะ จึงยังตอบไม่ได้ว่าภายในปีนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือ 14,000 กว่าล้านบาท และยังมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอีกไม่น่าห่วงเรื่องการลงทุน
ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศ ตอนนี้ยังคงเน้นในกลุ่มเดิม เช่น ตลาดอินเดีย ที่ขณะนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้น และตลาดออสเตรเลียที่เศรษฐกิจยังเติบโตได้ดีอยู่ ส่วนตลาดยุโรปแม้ยอดขายสินค้าประเภทโซล่าเซลล์และเน็ตเวิร์คจะลดลงบ้าง แต่สินค้าหลายตัวก็ปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่าเห็นห่วงยอดขายสินค้าประเภทเน็ตเวิร์คในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะการขยายตัวของตลาดเน็ตเวิร์คชะลอตัวลง โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งเป็นช่วงปรับเปลี่ยน แต่สัดส่วนรายได้จากสินค้าประเภทดังกล่าวไม่สูงมาก จึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทมาก
"ความเสี่ยงตัวที่จะมีผลต่อกำไรไม่เข้าเป้า คือสินค้าเน็ตเวิร์คซึ่งเป็นช่วงปรับเปลี่ยนว่าจะเป็นยังไง ส่วนสินค้าที่เหลือดีทั้งหมด"นายอนุสรณ์ กล่าว
ด้านสถานการณ์ความวุ่นวายในหลายประเทศช่วงนี้นั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า อาจมีเหตุการณ์สงครามเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่กระทบบริษัท เพราะในตะวันออกกลางมีเพียงสำนักงานและจ้างคนในท้องถิ่นขาย ขณะที่ยอดขายยังไม่มากจึงไม่กระทบรายได้ ขณะที่ตลาดอินเดียแนวโน้มดีมากภายใต้รัฐบาลใหม่ะ บราซิลก็จะเลือกตั้งแนวโน้มน่าจะดี