การดำเนินการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนให้สถาบันการเงินเริ่มทำธุรกิจในแบบ Open Architecture Platform เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลาย สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่จะเพิ่มประโยชน์ให้ลูกค้ามากกว่าเดิม
TMB ได้ร่วมกับ บลจ.ทหารไทย และ เมอร์เซอร์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลกในการคัดเลือกกองทุนรวมต่างประเทศด้วยกรอบการคัดเลือกในระดับสากล ส่วนกองทุนรวมที่ลงทุนในไทยและอื่นๆ ใช้เกณฑ์การเลือกตามมาตรฐานสากลเดียวกัน เช่น ตัวกองทุนเองจะต้องมีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน มีผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในสินทรัพย์ประเภทนั้นๆ โดยเฉพาะผ่านแบบจำลองความเสี่ยงที่เหมาะสม มีกระบวนการตัดสินใจลงทุนที่น่าเชื่อถือ และมีโอกาสในการทำกำไรที่ดีให้กับผู้ลงทุน นอกเหนือจากการพิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอดีตตามมาตรฐานสากล
เบื้องต้น TMB ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 4 แห่ง ได้แก่ บลจ.ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล บลจ.อเบอร์ดีน บลจ.ยูโอบี และบลจ.ทหารไทย ในการให้บริการกองทุนรวมในรูปแบบ Open Architecture ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ซึ่ง TMB Open Architecture จะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์กองทุนรวมได้อย่างน้อย 15% จากเดิม 165,000 ราย ณ สิ้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวม (AUM) จะเพิ่มขึ้นเป็น 163,000 ล้านบาท จากเดิม 113,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 56
พร้อมกันนี้ TMB ยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาการลงทุนที่อยู่ในทุกสาขา ทั่วประเทศ กว่า 450 สาขา รวมถึงสาขาที่ตั้งอยู่ในอาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ตามความสะดวกและรูปแบบการใช้ชีวิต ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการแนะนำและคำปรึกษาการลงทุนจากทีมงานที่มีประสบการณ์สูง สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมในแต่ละประเภทแต่ละระดับความเสี่ยงได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและสามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัว