สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 56,361 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 36,969 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 65.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 11,816 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.0% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,925 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB446A, LB176A และ LB196A(รุ่นอายุ 29.9 ปี, 2.9 ปี และ 4.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,044 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)(THAI238A) มูลค่า 236.6 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด(มหาชน)(TICON177B) มูลค่า 230.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกันของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)(HMPRO178A) มูลค่า 200.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 667.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,726 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,724 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,024 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.07% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 5-30 ปี ประมาณ 1-2 bps. โดยพันธบัตรรัฐบาล รุ่น Benchmark อายุ 30 ปี ที่ประมูลวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 1.60 เท่าของวงเงินประมูล ด้านนักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุม FOMC ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ และติดตาม