บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น(ADAM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 560,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศ และเพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
บริษัทจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 60,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในกรณีที่บริษัทมีการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ Advance Opportunities Fund จำนวนไม่เกิน 10,000,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (หรือเทียบเท่ากับสกุลเงินบาทไทยจำนวน 250,000,000 บาท)
พร้อมทั้ง จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 500,000,000 หุ้น ให้แก่กลุ่มผู้ลงทุนใหม่ ได้แก่ บริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(บริษัท ที แลนด์) และ Fortune Thailand Investment Fund ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ลงทุนของบริษัท ที แลนด์ ในราคาหุ้นละ 1.71 บาท
ขณะที่บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ จากบริษัท ที แลนด์ ในราคาหุ้นละ 36.36 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 800,000,000 บาท
ผลประโยชน์ที่บริษัทและผู้ถือหุ้นจะได้รับจากการเข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท กีธา คือ ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทย่อยในลักษณะ Holding Company ซึ่งประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องและมีความเสี่ยงที่ส่วนของผู้ถือหุ้นของงบการเงินรวมติดลบ ดังนั้นการเข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท กีธา ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเป็นบริษัทที่มีโครงการที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และให้อัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่บริษัททำให้บริษัทมีโอกาสที่จะเติบโตทั้งทรัพย์สินและกำไรในอนาคต ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาฐานะ การเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท
นอกจากนี้ ราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท กีธา ที่บริษัทจะเข้าซื้อเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 800,000,000 บาทนั้น เป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระที่ประเมินมูลค่าของบริษัท กีธาไว้ที่ 858,950,000 บาท
สำหรับบริษัท กีธา มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ ซึ่งได้เปิดการขายและมีรายได้จากการจอง ทำสัญญา และเงินดาวน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในปี 56 บริษัท กีธา ได้กู้เงินจากบุคคลภายนอก และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 แหล่ง เพื่อใช้พัฒนาโครงการอืนๆ ในอนาคตด้วย ดังนั้น อาจมีความเสี่ยงเรื่องกระแสเงินสดไม่เพียงพอในการพัฒนาโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ให้แล้วเสร็จตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากบริษัทจะนำเงินส่วนใหญ่ที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่กลุ่มผู้ลงทุนใหม่ไปใช้ในการซื้อหุ้นของบริษัท กีธา ซึ่งในส่วนนี้กลุ่มผู้ลงทุนใหม่มีแผนที่จะจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการทีกำลังดำเนินอยู่ รวมถึงโครงการใหม่บนที่ดินเปล่า
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นสามัญบริษัท กีธา ถือเป็นการจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม (Backdoor Listing)จึงต้องยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์ ให้พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ของบริษัท (Relisting) และพิจารณารับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงคุณสมบัติของบริษัท กีธา ให้เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์