ทั้งนี้ บริษัทคงราคาขายหุ้นที่ 3.30 บาท/หุ้น คิดเป็น P/E 14 เท่า ซึ่งได้คำนวนตามที่ ก.ล.ต.สั่งการมา จากเดิมได้มีการคิด P/E 11 เท่าที่ได้เพราะได้มีการรวมคิดในส่วนของโครงการในอนาคต คือ โครงการริชพาร์ค@เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน ก.ย.นี้
อนึ่ง ทาง ก.ล.ต. สั่งให้ RICHY แก้ไขข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) โดยให้เปรียบเทียบอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (พีอี) ของ RICHY และของภาคอุตสาหกรรมในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยในแบบ filing ในช่วงเวลาการขายหุ้น IPO เป็นการคำนวณค่าพีอีของบริษัทจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง เปรียบเทียบกับค่าพีอีเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในช่วงระยะเวลา 24 เดือน
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท RICHY เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ว่า ได้นำส่งข้อมูลต่อ ก.ล.ต.อย่างครบถ้วนแล้ว พร้อมกันนี้ที่ผ่านมาได้จัดทำหนังสือแจ้งไปยังนักลงทุนเกี่ยวกับการขยายเวลาจองหุ้นดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุกทราบว่าหุ้น RICHY ได้รับการอนุมัติให้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรกจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 7 สิ.ค.57
ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้นักลงทุนสบายใจได้ เนื่องจากแนวโน้มในอนาคตธุรกิจของ RICHY มีโอกาสจะเติบโตได้ดีต่อไปตามการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนที่ปัจจุบันภาครัฐยังคงมีนโยบายสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งที่อยู่อาศัยทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าถือเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยอัตราการขายแต่ละโครงการของ RICHY เฉลี่ย 80-90% ขึ้นไป โดยสิ้นปี 56 มีกำไรขั้นต้นที่ 36% แม้ว่าไตรมาส 1/2557 จะปรับลดลงเหลือ 29% แต่เป็นไปตามฤดูกาล ที่โครงการส่วนใหญ่ของบริษัทจะเปิดขายในช่วงปลายปี จึงมั่นใจว่าในปีนี้กำขั้นต้นจะเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
"คณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนของ RICHY มีความมุ่งมั่นจะช่วยกันผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก ซึ่งที่ได้เงินจากการระดมทุนเข้ามา เราจะนำไปใช้ขยายโครงการใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ดูที่ดินไว้หลายแปลง หลังจากนี้จะเริ่มดำเนินการซื้อที่ดินและทำตามขั้นตอนทันที เพื่อให้ผลประกอบการเติบโตต่ออย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้บริษัทก้าวไปสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 1 ใน 20 ของประเทศภายในระยะเวลา 10 ปี"นางอาภา กล่าว