ส่วนภาพรวมธุรกิจประกันภัยช่วงครึ่งปีหลังนั้น แนวโน้มเริ่มกลับมาดีขึ้นหลังเศรษฐกิจค่อยๆปรับตัวดีขึ้น เริ่มมีการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามนโยบายคืนความสุขของคสช. บริษัทประกันภัยรายใหญ่ๆเริ่มออกแคมเปญใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งสร้างการแข่งขันให้ดุเดือดและกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
บริษัทหันมามุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกอย่างจริงจัง โดยจะขยายไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น หลังจากที่พบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะทำตลาดได้อีกมาก
ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัทได้ออกแคมเปญ “TiP PLUS เกินคาด" ด้วยแพคเกจประกันภัย 3 รูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด “ดูแลกันดีเกินคาด" เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย
ประกอบด้วย TiP MOTOR 3 PLUS จ่ายเบาๆก็ไร้กังวลเกินคาด นอกจากคุ้มครองคู่กรณีและอุบัติเหตุแล้วยังดูแลถึงการใช้รถในชีวิตประจำวัน อาทิ รถเสีย น้ำมันหมด แบตเตอรี่เสื่อม รถเคลื่อนที่ไม่ได้ TiP MOTOR 3 PLUS ที่เดียวที่ยกระดับการบริการดั่งประกันภัยชั้นหนึ่ง
TiP HOME PLUS ประกันภัยที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่คุ้มครองแค่ตัวบ้าน และอัคคีภัย เหมือนประกันบ้านทั่วไป บุคคลที่สามที่ได้รับบาดเจ็บภายในบ้าน ไปจนกระทั่งกระจกแตก ก็สามารถเคลมได้
TiP FORTY PLUS ยิ่งแก่ ยิ่งคุ้ม โดยปกติแล้วประกันทั่วไป ผู้ทำประกันจะต้องจ่ายค่าเบี้ยแพงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น แต่ประกันตัวนี้ให้คุณจ่ายเบี้ยถูกเท่ากันทุกปี ตั้งแต่อายุ 40 ปี จนถึง 65 ปีพร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มการคุ้มครองกระดูกแตกหัก ชดเชยค่ารถเข็น (ในกรณีที่แพทย์สั่ง) และอื่นๆมากมาย
สำหรับเป้าหมายยอดขายแพคเกจ “TiP PLUS เกินคาด" คาดว่าจะสร้างรายได้เบี้ยประกันราว 2,500 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้ (57–58) ส่งผลให้มาร์เก็ตแชร์ของทิพยประกันภัยเพิ่มเป็น 10%