ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 356,696 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 4, 2014 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2557) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 356,696 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 71,339 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 13% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 70% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 248,269 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย(ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง(Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 59,692 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน(Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 9,602 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 2.9 ปี) LB196A (อายุ 4.9 ปี) และ LB446A(อายุ 29.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 16,485 ล้านบาท 13,515 ล้านบาท และ 5,688 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB14819A(อายุ 14 วัน) CB14O30C(อายุ 91 วัน) และ CB15129A(อายุ 182 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 28,035 ล้านบาท 26,101 ล้านบาท และ 18,474 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) รุ่น KTB223A(AA) มูลค่าการซื้อขาย 1,034 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) รุ่น CPF328A(AA-) มูลค่าการซื้อขาย 619 ล้านบาท และหุ้นกู้ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รุ่น SCB222A(AA-) มูลค่าการซื้อขาย 614 ล้านบาท

ราคาของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 – 5 ปี ปรับตัวลดลงเล็กน้อย(Yield เพิ่มขึ้นประมาณ 5 Basis Point) โดยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) เมื่อวันที่ 29 – 30 ก.ค. มีมติให้ลดขนาดของมาตรการ QE ลงอีกเดือนละ 10,000 ล้านเหรียญ USD จาก 35,000 เหลือ 25,000 ล้านเหรียญ USD/เดือน พร้อมส่งสัญญาณว่าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0 – 0.25% ต่อไป ขณะที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/57 ของสหรัฐฯที่ขยายตัวถึง 4.0% แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ประเด็นความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียที่มีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม รวมถึงประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ของอาร์เจนตินา ส่งผลให้เกิดแรงซื้อสุทธิในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นพันธบัตรสหรัฐฯ(US Treasury) หรือแม้แต่พันธบัตรรัฐบาลไทย เพิ่มมากขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท(ทั้งระยะสั้น และระยะยาว)รวมกัน 18,345 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น(อายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) 13,660 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 4,685 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อยมียอดขายสุทธิ 35 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ