นายสุรพล ขวัญใจธัญญา กรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย หุ้นสามัญ TAKUNI เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาขายหุ้นสามัญเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่ราคา 1.60 บาท โดยมีส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 20% โดยเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 100,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจัดสรรให้กับผู้มีอุปการะคุณของบริษัทฯ 50% และที่เหลืออีก 50% จะจัดสรรให้กับผู้มีอุปการะคุณของผู้จำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งจะไม่มีการจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนรายย่อยทั่วไป เนื่องจากความต้องการของกลุ่มผู้มีอุปการะมีความต้องการมากเพียงพอต่อการกระจายหุ้นในครั้งนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ เปิดให้จองซื้อได้ในวันที่ 6-8 สิงหาคม 2557 นี้ โดยมีบล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย และมีบล.ไอร่า บล.ฟินันเซีย ไซรัส และบล.โกลเบล็ก ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยการระดมทุนในครั้งนี้คาดว่าจะได้เม็ดเงินประมาณ 160 ล้านบาทนั้น บริษัทฯ คาดว่าจะนำไปใช้สำหรับลงทุนในสถานีบริการก๊าซ คิดเป็น 40% ขณะที่อีก 60% ที่เหลือ นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
“สำหรับราคาที่กำหนดนั้น ถือว่ามีแรงจูงใจต่อนักลงทุน เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดี อีกทั้งเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนก็จะเข้ามาช่วยพัฒนาปรับปรุงระบบและคุณภาพของบริษัท ให้มีความสามารถในการเพิ่มรายได้ และทำกำไรมากยิ่งขึ้น จึงมั่นใจว่าหุ้น TAKUNI จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ"นายสุรพล กล่าว
นายสุรพล กล่าวต่อว่า จากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ คาดว่าบริษัทฯ ยังมีช่องทางในการเติบโต และสามารถพัฒนาปรับปรุงในระบบต่างๆ ได้อีกมาก เพื่อเพิ่มกำไรและรายได้ให้กับบริษัทฯ จึงน่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่อีกตัวที่น่าจับตามองและอยู่ในความสนใจของนักลงทุน สำหรับการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นั้น คาดว่า TAKUNI จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2557
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินว่า เปิดเผยว่า การกำหนดราคาขายในครั้งนี้ ถือเป็นราคาที่เหมาะสมและมีส่วนลดให้กับนักลงทุน เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในระหว่างปี 2554 - 2556 บริษัทฯมีรายไดัจากการขายและบริการรวมที่ 947.30 ล้านบาท 1,092.47 ล้านบาท และ 1,209.21 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13% และในไตรมาส 1 ปี 2557 มีรายได้ คิดเป็น 262.24 ล้านบาท ลดลง 22% จากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบภายในประเทศจากหลายปัจจัย อย่างไรก็ดี ในปีนี้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ จะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยภายในประเทศที่ดีขึ้น
สำหรับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในระหว่างปี 2554 – 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.81 ล้านบาท 27.62 ล้านบาท 28.55 ล้านบาท ตามลำดับ และในไตรมาส 1 ปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรอยู่ที่ 6.08 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยคิดเป็น 2.4% ในตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนกำไรสุทธิจากการขายแก๊ส LPG คิดเป็น 50% ติดตั้งระบบแก๊ส 30 % และทดสอบ 20% จากรายได้จากการดำเนิธุรกิจและกำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้น จึงเห็นได้ว่าบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาโดยตลอด