"เม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาหลังจากการเพิ่มทุน ไปจนถึงเม็ดเงินที่จะได้รับหลังจากการใช้สิทธิ์ซื้อวอร์แรนท์นั้นจะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนสูงกว่า 19,824 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้แสนสิริสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งด้านการขยายฐานการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยได้อย่างครบวงจรทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่าการปรับตัวของแสนสิริในครั้งนี้ น่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยแสนสิริน่าจะสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้"นายธงชัย กล่าว
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ SIRI กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมั่นใจว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ผู้ถือหุ้นเดิมจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี และวิริยะประกันภัยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็พร้อมที่จะสนับสนุน โดยคาดว่าการเพิ่มทุนจะเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะทำให้กลุ่ม SIRI มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจากการลดภาระการพึ่งพาการกู้ยืมเงินลงทุนจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารต้นทุนและการสร้างผลกำไรทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเติบโตเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่แข็งแกร่งในอนาคต