นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวดีกว่าคาดในไตรมาส 2 พร้อมกับตัวเลขการจ้างงานที่มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย.ยังคงทรงตัว ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังเดินหน้าลดขนาดการเติมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบลงเหลือ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน แต่จะคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจต่อเนื่อง
แต่สำหรับนักลงทุนที่ยังต้องการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ และยังต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น ขณะนี้ บลจ.ธนชาต ได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศอายุ 1 ปี (T-FixFIF1Y1AI) ระหว่างวันที่ 6–13 ส.ค.57 ผลตอบแทนประมาณ 3.10% โดยเสนอขายต่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย (AI Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมรูปแบบใหม่ที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยทั่วไป
สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน T-FixFIF1Y1AI จะเข้าไปลงทุน คือ เงินฝากในจีนและ อินโดนิเซีย 44% ตราสารหนี้ Turkiye Garanti Bankasi และ AKBank T.A.S.ประเทศตุรกี 42% รวมถึงตราสารหนี้ Banco ABC Brasil และ Banco BTG Pactual ประเทศบราซิล 14% มีค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.1990% กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท
นอกจากนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะเวลา 6 เดือน บลจ.ธนชาต อยู่ระหว่างการเสนอขาย กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M72 (TFI6M72) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.60% เริ่มเสนอขาย 6-13 ส.ค.57 เช่นกัน โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนเงินฝากธนาคารในจีน สัดส่วน 40.00% หุ้นกู้ระยะสั้น ของ ธ.ธนชาต สัดส่วน 20.00% หุ้นกู้ระยะสั้น ของ บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) / บจ. ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) สัดส่วน 20.00% ตั๋วแลกเงิน ของ ธ.ทิสโก้ 20.00% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.1200%