ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา BEAUTY ได้เปิดสาขาในพม่าไปแล้วจำนวน 2 สาขา, ลาว 2 สาขาเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย. และในช่วงที่เหลือของปีนี้จะทยอยเปิดสาขากัมพูชา 4 สาขา และเวียดนาม 4 สาขา และลาวอีก 1 สาขา โดยผ่านตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ ขณะที่กลยุทธ์ทางการตลาดในกลุ่ม CLMV เน้นชูจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ทัดเทียมกับแบรนด์ชั้นนำ แต่เหมาะสมกับสภาพผิวของลูกค้า ในราคาที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ และจัดทำโปรโมชั่นที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศนั้นๆ
“ภาพรวมธุรกิจด้านความงามในกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมองว่าในอนาคตยังมีกำลังซื้ออีกมาก เนื่องจากพฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในการดูแลผิวพรรณหน้าตาให้ดูดี เสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจของตัวเอง ประกอบกับผลิตภัณฑ์ของ BEAUTY เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มประชากรของประเทศเหล่านี้ หากสามารถขยายสาขาไปให้ครอบคลุมในทุกประเทศคาดว่าน่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก"นายแพทย์สุวิน กล่าว
สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานของ BEAUTY ในช่วงที่เหลือของปี 57 คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 30% และรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน และจะมีการขยายสาขาในประเทศของ SHOP BRAND ต่างๆออกไปตามเป้าหมายด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าปีนี้ BEAUTY BUFFET เปิดเพิ่ม 30 สาขา ส่งผลให้มีสาขารวม 210 สาขา และ BEAUTY COTTAGE เปิดสาขาเพิ่ม 20 สาขา ส่งผลให้มีสาขารวม 70 สาขา ส่วน BEAUTY MARKET เปิดเพิ่ม 15 สาขา ในปีนี้ส่งผลให้มีสาขารวม 18 สาขา