ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เริ่มรับรู้รายได้บางส่วนมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2557 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีนโยบายขยายฐานธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มจากธุรกิจเหล็กที่เป็นธุรกิจหลัก เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต ทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวตามปณิธานของคณะกรรมการได้ โดยได้เริ่มโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน- มิถุนายน 2557) บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิจำนวน 40.67 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ จึงส่งผลให้ผลประกอบการในงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 75.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.70 ล้านบาทหรือร้อยละ 344.28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 17.05 ล้านบาท จากในไตรมาสที่ 2/2556 ขาดทุน 17.36 ล้านบาท
"ไตรมาสที่ 2/2557 เราสามารถทำผลประกอบการให้พลิกกลับมาเป็นกำไรเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้มีการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสะท้อนให้กำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ในปีนี้"นายอนาวิล กล่าว