ในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะกลับมาแข็งแกร่ง หลังจากโครงการ UHV เสร็จสิ้นลงในไตรมาส 2/58 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตโพรพิลีนจากปัจจุบัน 4.12 แสนตัน/ปี เพิ่มขึ้น 3.2 แสนตัน/ปี และโครงการฟีนิกซ์ที่จะทำให้ IRPC มีความสามารถทำกำไรได้เทียบเคียงกับโรง Complex Refinery จากเดิมเป็น Simple Refinery
ทั้งนี้ ปี 58 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยเฉพาะจากการเพิ่มกำลังการกลั่นเต็มกำลังที่ 2.15 แสนบาร์เรล/วัน จากปีนี้มีกำลังการกลั่น 1.8 แสนบาร์เรล/วันหรือ ประมาณ 80%
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ นายสุกฤตย์ กล่าวว่า กำไรของปี 57 น่าจะออกมาดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 826 ล้านบาท เพราะมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร (DELTA) ที่จะคาดว่าจะทำกำไรให้กับบริษัทราว 2 พันล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดจะได้กำไร 1.4-1.5 พันล้านบาท โดยใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ใหม่เข้ามาช่วยสร้างประสิทธิภาพและลดต้นทุน
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากรายได้จากธุรกิจโรงกลั่นต่ำกว่าคาด เพราะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภูมิภาคนี้ไม่ค่อยดี แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังธุรกิจโรงกลั่นจะฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้ค่าการกลั่นรวม(GIM)ดีขึ้น โดยธุรกิจโรงกลั่นมีสัดส่วน 70% ของรายได้ และมีสัดส่วน 50% ของกำไรก่อนภาษีดอกเบี้ยค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย(EBITDA)
"เราตั้งเป้า Market GIM มากกว่าปีที่แล้ว 1.50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลและได้จากโครงการ DELTA อีก 1 เหรียญ/บาร์เรล แต่ 6-7 เดือนแรกทำไม่ได้และต่ำกว่าที่ แต่เราก็คาดหวังกับโครงการ DELTA"นายสุกฤตย์ กล่าว
ช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์ความไม่สงบในหลายประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้แนวโน้มราคาน้ำมันสูงขึ้น โดยในไตรมาส 3/57 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมาที่ประมาณ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบปี จากไตรมาส 2/57 ราคาอยู่ที่ 106-105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ฉะนั้น จึงต้องติดตามราคาน้ำมันดิบ และยอมรับว่าผลประกอบการปีนี้ไม่ค่อยดี ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทต้องจ่ายค่าเสียหายของอุปกรณ์จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐจากเหตุเพลิงไหม้หน่วย VGOHT และรายได้หายไปจากการหยุดผลิตคิดเป็น 5-10 ล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน
นายสุกฤตย์ กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 4/57 คาดว่าบริษัทจะเริ่มขายพื้นที่นิคมเชิงนิเวศน์บ้านค่าย จ.ระยอง พื้นที่ 2.2 พันไร่ได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดูความชัดเจนว่าจะรองรับอุตสาหกรรมประเภทใด เพราะพื้นที่ดังกล่าวไกลจากท่าเรือแหลมฉบัง แต่ใกล้ท่าเรือน้ำลึกของ IRPC ที่สามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภท Liquid ได้ ส่วนที่ดินใน อ.จะนะ จ.สงขลา 2 พันไร่ เดิมจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ แต่พบว่าผลตอบแทนไม่จูงใจการลงทุน จึงอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะพัฒนาอย่างไรจึงจะเหมาะสม