วัตถุประสงค์การใช้เงิน บริษัทฯจะนำไปก่อสร้างโรงซ่อมเครื่องบินอีก 1 แห่ง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขยายขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง คาดใช้เงินราว 4,000-5,000 ล้านบาทสำหรับสร้างโรงซ่อม บางส่วนจะนำไปขยายฝูงบินจากปัจจุบันเป็นการเช่ามากกว่าจัดซื้อ ซึ่งในอนาคตบริษัทอยากจะซื้อเครื่องบินใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ปัจจุบันมีฝูงบิน 25-26 ลำ ก็จะมีเข้ามาเพิ่ม รวมถึงการศึกษาขยายเส้นทางบินในอนาคต และใช้ในการปรับปรุงสนามบินสมุย
"เงินที่ได้จากระดมทุนเพื่อย้ายโรงซ่อมมาสร้างที่สุวรรณภูมิคงใช้เงินหลายพันล้านบาท เพราะเดิมโรงซ่อมอยู่ดอนเมือง ถ้าจะบินกลับไปซ่อมที่ดอนเมืองก็คงจะไม่ได้จึงต้องทำใหม่ที่สุวรรณภูมิ และเปลี่ยนเครื่องบินใหม่เป็นซื้อบางส่วน เพราะที่ผ่านมาเช่ามากกว่าซื้อ แต่อนาคตจะซื้อมากกว่าเช่า โดยซื้อมือหนึ่ง จากเดิมเครื่องบินบางส่วนอยู่ภายใต้ BOI ซึ่งได้รับยกเว้น VAT 8 ปี จะหมดแล้ว ก็ต้องเอาเครื่องบินใหม่ ธุรกรรมเปลี่ยนคงจัดซื้อมากขึ้น ไม่เช่าเหมือนเมื่อก่อนที่เป็นบริษัทเล็กก็เช่าไปก่อน ส่วนการเพิ่มเส้นทางบินอยู่ระหว่างศึกษาถ้าเพิ่มได้ก็เพิ่ม"
สำหรับวงเงินที่คาดว่าจะต้องใช้หลักหมื่นล้านบาทและด้วยความที่บริษัทเป็น best ในเอเชียด้วย รวมทั้งการแข่งขันของสายการบินในประเทศ ถือว่าไม่มีคู่แข่งแล้ว เพราะจุดบินหลักของบริษัทอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งหากมีสายการบินต่างประเทศเป็นสายการบิร่วมก็จะโอนผู้โดยสารให้เราทั้งหมด เชื่อว่าหุ้นก็น่าจะขายได้
"ก่อนหน้านี้เราไม่ต้องใช้เงินมาก ตอนนี้ต้องการโรงซ่อมซึ่งใช้เงิน 4-5 พันล้านบาท และเปลี่ยนเป็นการจัดซื้อเครื่องบินใหม่เลยซึ่งต้องลงทุนสูง จึงจะเข้าตลาด"นพ.ปราเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ แบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อยื่นเสนอขายหุ้น(ไฟลิ่ง) ณ วันที่ 8 ก.ค. 2557 ระบุว่าภายหลังการขายหุ้น IPO จะทำให้ทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มเป็น 2,100 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มี.ค. 2557 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 1,580 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 1 บาท โดยจะทำการออกหุ้นใหม่ 520 ล้านหุ้น และจะมีหุ้นสามัญเดิมในส่วนของ น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ร่วมเสนอขายด้วย ในจำนวนไม่เกิน 210 ล้านหุ้น รวมแล้วจะมีหุ้นเสนอขายครั้งแรกไม่เกิน 625 ล้านหุ้น