GUNKUL ตั้งบริษัทย่อยลุยธุรกิจพลังงานทดแทน,มั่นใจปีนี้รายได้โตตามเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 13, 2014 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท กันกุล โซลาร์ คอมมูนิตี้ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ทุนชำระแล้ว 250,000 บาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 10,000 หุ้น โดย GUNKUL ถือหุ้นในสัดส่วน 99.97%

ทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับปัจจุบัน GUNKUL มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท และเตรียมยื่นประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงประเมินว่าน่าจะผลักดันให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัท GUNKUL เติบโตอย่างต่อเนื่องกว่าที่เป็นอยู่ โดยเชื่อว่ารายได้รวมในปี 57 จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 3,000 ล้านบาท จากปี 56

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/57 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.57 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 104.94 ล้านบาท ซึ่งถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 90.71 ล้านบาท คิดเป็น 637.45% ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 311.64 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 690.97 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการรับเหมา 1,099.13 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 582.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 516.47 ล้านบาท คิดเป็น 88.64% เนื่องจากได้รับงานเพิ่มขึ้น และส่งมอบงานให้กับคู่สัญญาเป็นไปตามกำหนดการ

ขณะที่รายได้จากการขายอยู่ที่ 542.32 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 665.94 ล้านบาท ลดลง 123.62 ล้านบาท หรือลดลง 18.60% เนื่องจากช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาสภาพทางเศรษฐกิจขยายตัวลดลง ประกอบกับบริษัทยังมียอดค้างส่งสินค้าไปยังประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 430 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มีกำหนดส่งมอบใน ระหว่างปลายไตรมาส 3-4/57

ส่วนรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 26.90 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 14.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.03 ล้านบาท คิดเป็น 80.90% เนื่องจากบริษัทได้รับความไว้วางใจให้บริหารและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อย 129.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 36.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 93.52 ล้านบาท คิดเป็นเป็นเพิ่มขึ้น 257.13% เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จนสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครบทุกโครงการ ซึ่งจะยังผลให้บริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยที่บริษัทได้ถือสัดส่วนเท่ากับ 26.16 เมกกะวัตต์ (โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวได้รับ Adder 8 บาทเป็นระยะเวลา 10 ปี )


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ