สำหรับผลประกอบการในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ 1,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,730 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำรายได้เติบโตแล้วราว 6% และคาดว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวดีขึ้น และในช่วงไตรมาส 4/57 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของธุรกิจ อีกทั้ง Warehouse ที่จะก่อสร้างเสร็จในไตรมาส 4/57 จะทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 30% ผลักดันรายได้ให้เติบโตไปตามเป้าหมาย
ขณะที่บริษัทมีงานในมืออยู่กว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทั้งหมดในปีนี้ ส่วนกำไรทั้งปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตได้ 20% ซึ่งบริษัทจะเน้นผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง
"เรามองครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการส่งออกชิ้นส่วนดีขึ้น และในไตรมาส 3-4 เป็นปีที่ดีของชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่ไตรมาส 4 Warehouse จะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ จะทำให้ธุรกิจเทรดดิ้งเติบโตได้อีก 30% มองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีที่สุด คาดรายได้น่าจะเติบโตได้ราว 20% ในปี 58"นายสมพล กล่าว
ส่วนแผนร่วมลงทุนกับพันธมิตรในเอกวาดอร์สร้างโรงงานเป็นฐานการผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศแถบอเมริกาใต้นั้นบริษัทยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ โดยหากการลงทุนเกิดขึ้น สัดส่วนการถือหุ้นของ FPI คาดว่าจะอยู่ที่ 45-50% โดยจะมีการลงทุนเครื่องจักรและแม่พิมพ์ในปีแรกประมาณ 12 ตัว เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์
"เรายังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศเอกวาดอร์ เปรู โคลัมเบีย ชิรี โบลิเวีย โดยเรามองว่าประเทศดังกล่าวยังไม่มีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เลย และเราก็มีการส่งออกสินค้าให้กับประเทศเอกวาดอร์อยู่แล้ว ซึ่งต้องเสียภาษีการนำเข้าสินค้าในอัตราที่สูง หากสามารถก่อตั้งโรงงานได้จะทำให้เราประหยัดต้นทุนการนำเข้าได้ถึง 40% และทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน อย่างไรก็ตามมองว่าจะเข้าไปลงทุนในประเทศเอกวาดอร์เป็นที่แรก และจะทำให้มีรายได้เข้ามาราว 183 ล้านบาท"นายสมพล กล่าว