สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/57 ของบริษัทมีรายได้รวม 1,020.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 320.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.81% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 700.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 231.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.51% หรือเพิ่มขึ้น 60.72 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 171.01 ล้านบาท
“ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้ตามสัญญาของงานโครงการใหม่เพิ่มเข้ามาจำนวน 2 สัญญา มูลค่าประมาณ 1,189.89 ล้านบาท ทำให้รายได้ตามสัญญาในไตรมาส 2/57 อยู่ที่ 984.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 42.51% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ตามสัญญาอยู่ที่ 690.70 ล้านบาท“นายหยัง เจิน ลี กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้มีมาตรการเพิ่มการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และส่งผลให้ในไตรมาส 2/57 บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนมูลค่าประมาณ 20.98 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีปริมาณงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะรอรับรู้เป็นรายได้ในปีถัดไป และอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 6,500 ล้านบาท มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับงานดังกล่าว (High Potential Bidding Project)คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในปีนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ปีนี้จะสามารถเติบโตตามเป้าหมาย 15% ที่วางไว้
“บริษัทมีความชำนาญพิเศษในงานแปรรูปและประกอบโครงสร้างกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเหมืองแร่ และมีชื่อเสียงที่ดีในกลุ่มธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ว่าจ้าง และทำให้บริษัทชนะงานประมูลและมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทยังมี Backlog ที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้อยู่ประมาณ 70% ทำให้มั่นใจได้ว่ารายได้ในปีนี้จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้" นายหยัง เจิน ลี กล่าว