บลจ.กสิกรไทย ขายกองตราสารหนี้ 3-6 เดือน รับผลตอบแทนสูงสุด 2.7% ต่อปี 14-18 ส.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 13, 2014 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 14-18 ส.ค.57 นี้จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอจี(KEFF6MAG) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.70% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีพี (KFI3MEP) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่าย กองทุนที่ 2.40% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MAG จะลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ร่วมด้วยตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ตราสารหนี้ VakifBank,ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่ค้ำประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

ส่วนนักลงทุนทั่วไปที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว ขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีพี (KFI3MEP) ซึ่งโดยเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

นายนาวิน กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและกลุ่มสนับสนุนรัสเซียในยูเครน ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลดลงไปแล้ว 5-7% ในเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจทวีความรุนแรงและลุกลามไปสู่การคว่ำบาตรของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ประกาศโจมตีอิรักทางอากาศ หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศอิรัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกต่างปรับตัวลดลงทันที

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ตลาดเกิดความผันผวนในช่วงระยะสั้น โดยมุมมองของบลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของตลาดหุ้นต่างประเทศในระยะยาว จากตัวเลขเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคที่ออกมาดีกว่าที่คาด รวมถึงธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการโตเติบทางเศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ไม่มาก และต้องการลงทุนในระยะสั้น แนะนำให้ชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าว หรือสามารถเลือกพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุตั้งแต่ 3-6 เดือน เพื่อล็อคโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจและเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ