(เพิ่มเติม) APCO คาดขายหุ้นเพิ่มทุน PO ปีนี้ระดมทุนสร้างศูนย์ BIM-สำรองซื้อกิจการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 13, 2014 16:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์(APCO)คาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 28,000,018 หุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป(PO) ที่เป็นผู้มีอุปการะคุณของบริษัทได้ภายในปีนี้ เพื่อระดมทุนราว 800-900 ล้านบาทมาใช้ในการก่อสร้างศูนย์ BIM Healthcare ในประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เพื่อแสวงหาโอกาสในการซื้อกิจการใหม่เข้ามาเพิ่มเติมภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

ขณะที่บริษัทมีแผนจะขอย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET ในช่วงต้นปี 58 หลังจากมีการขยายธุรกิจไปมาก โดยเฉพาะในปีนี้เชื่อว่ากำไรจะเติบโตได้ตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 60% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องและมีกำไรไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่รายได้จากต่างประเทศจะเข้ามาเพิ่มขึ้น และทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทสูงขึ้นเป็น 47% ในปี 58 จากปีนี้อยู่ที่ 35% เนื่องจากการขายสินค้าในต่างประเทศให้อัตรากำไรสูงกว่าในประเทศ

นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ APCO เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับ PO คาดได้เงินราว 800-900 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือุห้นวันที่ 23 ก.ย.57 จากนั้นนำเสนอขออนุมัติต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ต่อไป โดยเงินที่ได้จะไปลงทุนก่อสร้าง BIM Healthcare Center ในประเทศไทย หลังจากที่มีในสิงคโปร์และมาเลเซีย รวมทั้งกำลังศึกษาการตั้งที่เวียดนามด้วย

"อยากจะมีในประเทศไทยด้วย คาดใช้เงินราว 50-100 ล้านบาท ตอนนี้ดูสถานที่อยู่ก็อยากจะให้สรุปเร็วที่สุดหรือภายในปีนี้"

นอกจากนี้ ยังเตรียมสำรองเงินไว้เพื่อโอกาสในอนาคตถ้ามีธุรกิจที่คล้ายกันก็อาจจะซื้อกิจการแต่คงจะเห็นใน 1-2 ปีข้างหน้ายังไม่ใช่เร็วๆ นี้

"หุ้น PO ที่เสนอขาย 28 ล้านหุ้นบริษัทจะให้สิทธิกับลูกค้าที่ซื้อสินค้าของบริษัทมีสิทธิในการซื้อหุ้นนี้ ซึ่งกลยุทธ์ PO นี้ผู้ถือหุ้นเดิมไม่ได้รับผลกระทบทางลบ ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะเกิด dilute เท่าไร แต่บริษัทได้กำไรจากการขายสินค้าร่วมกับการขายหุ้นเพิ่มทุนนี้ทันที และยังมีเงินไปขยายตลาดต่างประเทศที่กำลังโต เมื่อบริษัทมีกำไรเพิ่มก็จะดีต่อผู้ถือหุ้น"นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะย้ายหุ้นเข้าซื้อขายในตลาด SET ในช่วงต้นปี 58 หลังการเพิ่มทุนสำเร็จก็จะทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทแตะ 300 ล้านบาทเข้าหลักเกณฑ์ในการจดทะเบียนในตลาด SET โดยปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคปที่ 8,000 กว่าล้านบาท เติบโต 1,550% จาก 560 ล้านบาทเมื่อครั้งที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai เมื่อเดือน พ.ย.54 และบริษัทมีเงินสดในมือกว่า 300 ล้านบาท

บริษัทมั่นใจกำไรสุทธิปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 60% โดยครึ่งแรกกำไรเติบโต 109% มาอยู่ที่ 67 ล้านบาท แนวโน้มกำไรครึ่งหลังไม่น่าจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งการเติบโตของรายได้และกำไรนั้น ปัจจัยหลักยังมาจากตลาดในประเทศ แต่ไตรมาส 4/57 นี้คาดว่ายอดขายจากต่างประเทศจะเริ่มเข้ามาราว 20 ล้านบาท หลังจากเซ็นสัญญาตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศไปแล้ว

ขณะที่ยอดขายจากต่างประเทศจะเข้าเต็มปีในปี 58 ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยสูงถึง 47% จากปีนี้อยู่ที่ราว 35% เนื่องจากยอดขายผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศจะเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญมีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)สูงถึง 60-65%

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ในปีนี้มาจากตลาดในประเทศ 90% ต่างประเทศราว 10% โดยบริษัทคาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะอยู่ที่ 450-500 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 56 ที่มีรายได้รวม 355 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 217 ล้านบาท เติบโต 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ทิศทางครึ่งหลังคาดยอดขายน่าจะเติบโตกว่าครึ่งแรก เพราะจะมียอดขายต่างประเทศเข้ามา

สำหรับช่องทางการจำหน่ายของบริษัทนั้น ในปีนี้สัดส่วนรายได้มาจากเทเลมาร์เก็ตติ้งสูงและส่งผลให้กำไรมีการเติบโตขึ้นตาม เพราะเป็นช่องทางที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 60-65%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ