นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการ PS กล่าวว่า ในปี 60 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ราว 8-9 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะแตะ 1 แสนล้านบาท หลังจากปีนี้ได้มีการปรับแผนธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ขณะที่บริษัทตัดสินใจชะลอแผนลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ เนื่องจากประสบปัญหาเงื่อนไขทางด้านกฏหมาย อัตราภาษี และอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ทำให้บริษัทได้ตัดสินใจถอนการลงทุนในมัลดีฟ พร้อมทั้งยกเลิกการลงทุนในเวียดนามและอินโดนีเซีย เหลือเฉพาะโครงการในอินเดียที่บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาต่อไป เพราะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทจะหันมาเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดให้เป็น 7% ในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10% ในปี 58 เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของการเติบโตของพื้นที่ต่างจังหวัดที่จะได้รับประโยชน์ากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) และการกระจายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไปยังภูมิภาคต่าง ๆ มากขึ้น
ด้านนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PS กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้ปรับเป้ายอดขายเป็น 4.3 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในช่วง 4.1-4.5 หมื่นล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมียอดขาย 1.79 หมื่นล้านบาท ลดลง 20.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2.26 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อลดลง
ส่วนรายได้มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในช่วง 4-4.2 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.88 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1.53 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่าโครงการที่รอโอน(backlog)ในปัจจุบันทั้งหมด 3.69 หมื่นล้านบาทที่จะโอนในปีนี้ 1.61 หมื่นล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยโอนไปจนถึงปี 60
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ปรับเพิ่มเป็น 73 โครงการ มูลค่ารวม 7.24 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 70 โครงการ มูลค่ารวม 70 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการทยอยเปิดโครงที่เหลือในครึ่งปีหลังอีก 35 โครงการ มูลค่า 4.14 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 14.9% ในสิ้นปี 56 โดยครึ่งแรกของปี 57 มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15.6% เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างและลดค่าใช้จ่าย ประกอบกับมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่า 14.9%
"ภาพรวมภาคอสังหาฯ ในช่วงปีหลังก็จะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นกลับมาดี การตัดสินใจซื้อและโอนโครงการดีขึ้นอย่างมาก แต่ภาพรวมของอสังหาฯทั้งปีลดลง 7.2% จากปีก่อนที่ 3.48 แสนล้านบาท เพราะว่าผลกระทบความไม่สงบทางการเมืองในครึ่งปีแรก แต่ยังมั่นใจว่าเป้ายอดขายและรายได้ของเรายังเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้แน่นอน เพราะทุกอย่างเริ่มดีขึ้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา"นายทองมา กล่าว
"ที่เราออกหุ้นกู้ในปีนี้ เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยยังไม่ปรับเพิ่มขึ้น เพราะมาตรการ QE ของสหรัฐฯ จะหมดในช่วงตุลาคมนี้ และแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ก็จะเพิ่มขึ้น และของเราก็จะเพิ่มตามด้วย ออกปีนี้ต้นทุนดอกเบี้ยก็ต่ำ และเราจะนำเงินไปชำระหนี้ลด D/E ลง"นายเลอศักดิ์ กล่าว