นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุ) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ครึ่งปีแรกธนาคารได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจขอสินเชื่อ ทำให้สินเชื่อเติบโตเพียง 3.6% อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวโน้มในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเป็นอย่างมาก เพราะการเมืองกลับสู่สภาวะปกติ สถานการณ์เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ลูกค้าเริ่มมีการตัดสินใจขอสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน ธนาคารมีสัดส่วนของสินเชื่อลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่ 39% ลูกค้าองค์กร 12% ลูกค้า SMEs 19% และลูกค้ารายย่อย 19% โดยตั้งเป้าจะรักษาสัดส่วนดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปี 57
ขณะที่ธนาคารคาดว่าจะรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ไม่ให้เกิน 2% โดยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.88% และตั้งเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ที่ 2.25% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.12% หลังจากครึ่งปีแรกใสอยู่ที่ 2.21% เป็นผลจากการลดต้นทุนทางการเงินด้วยการขยายฐานลูกค้าเงินฝากและขยายสาขาเพิ่มขึ้น
ในปีนี้ LHBANK มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 118 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากครึ่งปีแรกมีสาขาเพิ่มเป็น 115 สาขาแล้ว เหลืออีก 3 สาขาที่จะตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง
"ครึ่งปีแรกเราก็เจอเหตุการณ์บ้านเมืองกระทบไป ทำให้สินเชื่อเราโตแค่ 3.6% ทั้งปีก็ยังมั่นใจโต 10-15% แม้ว่าเราจะปรับลดลงมาจาก 20% โดยกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายสินเชื่อเพิ่มไม่น้อยกว่า 10% โดยเน้นสินเชื่อที่มีคุณภาพ รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เน้นการบริการ Bancassurance ที่ปัจจุบันขยายตัวเพิ่มต่อเนื่อ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม"นางศศิธร กล่าว
ด้านธุรกิจ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH Fund)ในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM)เป็น 4 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 56 อยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน ก.ค.57 เพิ่มขึ้นมาที่ 3.4 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่ง LH Fund จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และมีแผนล้างขาดทุนสะสมจำนวน 30 ล้านบาทภายในสิ้นปี 57
สำหรับ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH Securities) จะเริ่มมีการดำเนินงานเป็นนายหน้าค้าหลักทรัพย์ในช่วงเดือน ก.ย.57 และจะเริ่มดำเนินการในส่วนของธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินในช่วงกลางปี 58