TOP เผยปีนี้กำลังการกลั่นลดลงจากแผนหยุดซ่อมบำรุงแต่มาร์จิ้นดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 15, 2014 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรศักดิ์ โฆษิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) กล่าวว่า ในปีนี้กำลังการกลั่นของบริษัทจะลดลงมาที่ 94-96% จากปีก่อนอยู่ที่ 102% เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผนงาน คือ หน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3(CDU-3) ขนาดกำลังการกลั่นประมาณ 165,00บาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่ 15 มิ.ย.ถึงสิ้นเดือน ก.ค.57 แต่สามารถลดระยะเวลาซ่อมบำรุงเหลือ 46 วัน จากแผนเดิมกำหนดไว้ที่ 55 วัน ขณะที่อะโรเมติกส์มีการใช้กำลังการผลิตเพียง 79% เพราะมีการหยุดซ่อมบำรุงเช่นกัน

แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังค่าการกลั่นจะอ่อนตัวลง แต่คาดว่าจะรีบาวด์ในช่วงปลายไตรมาส 3/57 ถึงไตรมาส 4/57 ส่วนราคาอะโรเมติกส์ คาดว่วจะรีบาวด์กลับมาหลังจากดีมานด์และซัพพลายเข้าสู่จุดสมดุล เพราะหากมาร์จิ้นต่ำก็จะทำให้บรรดาโรงงานลดการผลิตลง จึงเชื่อว่ามาร์จิ้นไม่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)พาราไซลีนน่าจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณกว่า 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาน้ำมันหล่อลื่นก็น่าจะทรงตัว เพราะยังไม่มีกำลังการผลิตใหม่ออกมาสู่ตลาดเพิ่มเติม

"ปกติค่าการกลั่นจะมาตกท้องช้างในไตรมาส 3 และรีบาวด์ในไตรมาส 4 อะโรเมติกส์ก็ผ่านช่วงต่ำที่สุดแล้ว"นายวีรศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ TOP มีค่าการกลั่นรวม(GIM)ไม่รวมสต๊อกน้ำมันที่ 5.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู๋ในระดับ 7.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ในปีนี้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)ของโรงกลั่นจะดีขึ้น 50 เซ็นต์/บาร์เรลหลังจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานของหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนเพิ่มเติม รวมถึงเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในหอกลั่นน้ำมันดิบ ซึ่งโครงการนี้ลดการใช้เชื้อเพลิงถึงประมาณ 15,000 ตัน/ปี และยังสามารถผลิตน้ำมันอากาศยานที่มีมูลค่าสูงได้เพิ่มขึ้น อนึ่ง มูลค่าการลงทุนโครงการนี้อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมลงทุนในโครงการไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP) 2 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิต 239 เมกะวัตต์ และไอน้ำรวม 498 ตัน/ชั่วโมงมีแผนผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 59 พร้อมกัน มูลค่าลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนโครงการผลิตสาร LAB ภายใต้บริษัท ลาบิกซ์ จำกัด ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ TOP กับบริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี จำกัด ขนาดกำลังการผลิต 1 แสนตัน/ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างตามแผนงาน โดยมีความคืบหน้าไปแล้วราว 52% ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างฐานราก ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ