ส่วนโครงการมหาสมุทร ที่หัวหิน จะเปิดการขายเร็วๆ นี้ และสามารถเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาสสุดท้ายปี 58
นายสรพจน์ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในครึ่งหลังของปี 57 จะยังคงสามารถเติบโตต่อเนื่อง โดยเห็นได้ชัดเจนจากยอดขายโครงการมหานครที่ทำได้ดีมากตั้งแต่ต้นปี และมั่นใจว่าอสังหาริมทรัพย์เซ็กเมนต์ไฮเอนด์มีความมั่นคงทั้งในระยะกลางและระยะยาวเพราะจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ที่จะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/57 ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ตามงบการเงินรวม เป็นจำนวน 79.1 ล้านบาท ว่า เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ 2 โครงการ คือ โครงการมหานครและโครงการมหาสมุทร หัวหิน จึงยังไม่สามารถบันทึกการรับรู้รายได้จากการขายโครงการมหานครที่มีผู้จองซื้อแล้วมากกว่า 60% ได้
"ไตรมาส 2/2557 ถือเป็นช่วงเวลาสำหรับการบริหารจัดการ โดยมุ่งเน้นไปที่การเร่งการก่อสร้างโครงการที่บริษัทฯ ดำเนินอยู่ พร้อมด้วยการวางแผนด้านกลยุทธ์รวมของบริษัทฯ รวมถึงการบริหารจัดการของโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"นายสรพจน์ กล่าว
ความคืบหน้าของโครงการ “มหานคร" โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์รูปแบบมิกซ์ยูส ซึ่งรวมที่พักอาศัย แบรนด์เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน, โรงแรมบางกอก เอดิชั่นและ “มหานคร คิวบ์" ไลฟ์สไตล์รีเทลเซ็นเตอร์ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาการก่อสร้างคืบหน้าอย่างมาก โดยในส่วนแรกที่เป็นตัวอาคารหลักขณะนี้ก่อสร้างถึงชั้นที่ 36 แล้ว และจะเห็นความคืบหน้าประมาณ 5-6 ชั้นต่อเดือน โดยโครงการมหานครมีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาส 4/58
ขณะที่ในส่วนที่สองคือ มหานคร คิวบ์ อาคารไลฟ์สไตล์ แอนด์ รีเทลล์ เซ็นเตอร์ 7 ชั้น ที่มีพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร ล่าสุดได้ก่อสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยผู้เช่ารายแรก ดีน แอนด์ เดลูก้า ได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนผู้เช่ารายอื่นๆ เช่น VOGUE lounge และL’Atelier de Joël Robuchon กำลังอยู่ระหว่างการตกแต่งร้านและจะเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งหลังปี 57
บริษัทได้มีการเริ่มรับรู้รายได้โครงการมหานครในส่วนของ รีเทล คิวบ์ ตั้งแต่ไตรมาส 1/57 และจะรับรู้รายได้ส่วนอื่นๆ ได้แก่ ห้องชุดพักอาศัย, โรงแรม, รีเทล ฮิลล์ ได้ตั้งแต่สิ้นปี 58 เป็นต้นไป
นายสรพจน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการมหาสมุทร หัวหิน ที่มีวิลล่าประมาณ 81 หลัง มูลค่าเฉลี่ยหลังละประมาณ 40 ล้านบาท ว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวโครงการไปเมื่อปลายเดือน ก.ค.56 กำลังดำเนินงานในส่วนของงานระบบและโครงสร้างพื้นฐาน โดยบริษัทได้เซ็นสัญญามอบหมายงานแก่บริษัท ไทยโอบายาชิ จำกัด เป็นผู้ดูแลการก่อสร้างโครงการทั้งหมด
และในส่วนของมหาสมุทร คันทรี่คลับ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะรับจำนวนสมาชิกประมาณ 4,000 สมาชิก โดยจะเริ่มเปิดขายสมาชิกเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายโครงการมหาสมุทรได้ตั้งแต่ปี 2558 โดยจะเปิดขายวิลล่าพร้อมกับการก่อสร้างควบคู่กันไปด้วย
“กลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อสำหรับโครงการมหาสมุทร จะเน้นที่กลุ่มครอบครัวโดยเป็นคนไทยในพื้นที่และกลุ่มคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการไปพักผ่อนที่หัวหิน ซึ่งมีทั้งคนไทยที่ต้องการบ้านพักตากอากาศต่างจังหวัด และชาวต่างชาติที่สนใจ"นายสรพจน์ ระบุ
ด้านโครงการคอนโดมิเนียมที่ถนนหลังสวน อีกหนึ่งโครงการใหม่ของเพซที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ และโครงการยังมีทำเลที่ดีเยี่ยม โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการที่ถนนหลังสวนนี้ได้ในไตรมาสแรกปี 58