พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีความเป็นห่วงเรื่องแหล่งปิโตรเลียมที่ลดลงให้เร่งหาทางแก้ปัญหา โดยในส่วนของสัมปทานที่จะหมดอายุร้อยละ 70 ของกำลังผลิตในประเทศและไม่สามารถต่อสัญญารายเดิมได้ ทั้งบมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. และเชฟรอน อาจใช้แนวทางเปิดให้เอกชนทั้งรายเก่าและใหม่ยื่นข้อเสนอต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยหากรายใดให้ผลประโยชน์ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสัมปทาน หรือแบ่งปันผลผลิต (PSC) ทางรัฐบาลจะให้ดำเนินการ โดยกรอบพิจารณาจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งต่อไป
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวด้วยว่า หัวหน้า คสช. ให้ความเห็นในการประชุม กพช. เมื่อเร็วๆ นี้ให้เร่งส่งเสริมพลังงานทดแทน เช่น พลังงานขยะ ลม แสงอาทิตย์ ดังนั้น ในแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) 20 ปีมีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30-35 เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่ลดน้อยลง
ทั้งนี้ แหล่งอาทิตย์เดิมเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวร่วมไทยเวียดนาม แต่ 2 รัฐบาลได้ตกลงแยกพื้นที่ไทยสามารถเริ่มขุดเจาะสำรวจ 5 ปี หลังจากแบ่งพื้นที่โดยใช้ระยะเวลาสัมปทานและผลิตก๊าซมานาน 6 ปีแล้วผลิตก๊าซ 230 ล้าน/วัน รายได้รวม 50,000 ล้านบาท ผลิตไฟฟ้า 2,800 เมกะวัตต์ แต่ฝ่ายเวียดนามเป็นระบบ PSC จนขณะนี้ยังไม่สามารถผลิตได้ และเชฟรอนได้สัมปทานเดิมถอนตัวไปแล้ว