อย่างไรก็ตาม TK ยังเตรียมเดินหน้าเปิดสาขาในต่างประเทศเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งหลังจากเปิดบริษัทใหม่ในกัมพูชา
นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการ TK คาดว่า กำไรสทธิในปี 57 จะลดลงต่ำกว่าปี 56 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 428.68 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ในปีนี้คาดว่าจะลดลง 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.88 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกรายได้ลดลง 5% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อน
ทั้งนี้ เป็นผลจากการชะลอตัวของการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/56 และแนวโน้มของเศรษฐกิจไม่ได้มีการฟื้นตัวที่แบบ V shape ตามที่มีผู้คาดการณ์ไว้ รวมทั้ง ผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์และรถยนต์มีเคมเปญที่จูงใจลูกค้ามากกว่าบริษัทที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ทำให้ลูกค้าเลือกขอสินเชื่อกับผู้ประกอบการโดยตรงมากกว่า
“กำไรและรายได้ปีนี้เราก็ลดลงตามสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ความเป็นจริงโหดร้ายมาก เศรษฐกิจที่หลายๆคนมองว่าฟื้นตัวขึ้นแต่มันก็ไม่ฟื้นตัวในรูปของ V shape แต่เป็น U shape และก็ไม่รู้ว่า Bottom มันอยู่ตรงไหน ทำให้มองอนาคตไม่ออกว่าจะเป็นยังไงต่อไป และเจอเคมเปญจากผู้ประกอบการรถยนต์ที่เขาต้องการกระตุ้นยอดเยอะๆอีก ซึ่งมันก็แรงกว่าบริษัทไฟแนนซ์ ทำให้เราก็โดนผลกระทบไปเต็ม แต่ครึ่งปีหลังฐานการลดลงมันก็จะค่อยๆ ต่ำลงกว่าครึ่งปีแรก รวมๆ ก็ดีกว่าครึ่งปีแรกเล็กน้อย"นายประพล กล่าว
ขณะที่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทในปีนี้จะดูแลไม่ให้เกิน 5-5.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 4.4% เป็นผลมาจากลูกค้าชะลอการชำระหนี้ในช่วงต้นปีของปี 57 เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและความเชื่อมั่นที่ลดลง ทำให้กระทบต่อระดับ NPL ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทก็ได้มีการปรับเงินดาวน์บริษัทเพิ่มวงเงินเป็น 15% จากปัจจุบันวงเงินดาวน์อยู่ที่ 10% เพื่อปรับปรุงคุณภาพของสินเชื่อให้ดีขึ้น
ส่วนการเปิดสาขาในต่างประเทศในปีนี้จะมีการขยายในต่างประเทศเพิ่มอีก 1 ประเทศ หลังจากมีการเปิดสาขาในกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในช่วงสิ้นปี 58