ทั้งนี้ บริษัทมองว่าหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่งขึ้น และขณะนี้มีแนวโน้มที่จะอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณปี 58 ทันตามกำหนดในวันที่ 1 ต.ค.57 จึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก ประกอบกับ โดยปกติช่วงครึ่งปีหลังก็จะเป็นช่วงที่ประเทศมีการลงทุนด้าน IT ค่อนข้างมากอยู่แล้ว เมื่อมีงบประมาณเข้ามาสนับสนุนก็จะช่วยส่งเสริมการลงทุนด้านนี้ให้เพิ่มขึ้นด้วย
"เรายังมั่นใจว่าทั้งรายได้ และกำไร จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถึงแม้ครึ่งปีแรกจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากผลกระทบการเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปีก่อน แต่เรามองว่าครึ่งปีหลังคงจะเติบโตได้ค่อนข้างดี เนื่องจากการเมืองที่นิ่งขึ้น และการอนุมัติงบปี 58 ที่ออกมาแล้วจะทำให้ครึ่งปีหลังมีการลงทุนด้าน IT มากขึ้น"นายหะริน กล่าว
นายหะริน กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างการขอใบอนญาตตั้งบริษัทฯในประเทศพม่า โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือน ก.ย.57
"เราอยู่ระหว่างขอใบอนุญาติตั้งบริษัทลูกในประเทศพม่า เพื่อที่จะเป็นการรองรับตลาด IT ในพม่าที่จะเติบโตได้ในอนาคต ซึ่งช่วงแรกคงจะยังไม่มีรายได้ที่เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ แต่เป็นการเปิดตลาดเตรียมตัวไว้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าที่เรามองว่าพม่าจะมีการเติบโตได้ดีเพราะมีประชากรถึง 70 ล้านคน ถือว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่"นายหะริน กล่าว