"บริษัทมองว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯพอสมควร เนื่องด้วยการขยายฐานโครงข่ายมีจำนวนที่มากกว่าผู้เข้าไปติดตั้งระบบโทรคมนาคม ซึ่งมีผู้รับเหมาอยู่เพียง 15 ราย โดยขณะนี้บริษัทฯได้เตรียมความพร้อมด้านบุคคลากรไว้แล้ว หากได้รับงานดังกล่าวก็จะสามารถดำเนินการได้เลย"นายสมพงษ์ กล่าว
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของรายละเอียดโครงการติดตั้งเสาโทรคมนาคมจากทั้ง 2 บริษัท โดยเบื้องต้นทราบว่า DTAC มีแผนขยายเสาสัญญาณจำนวน 2,000 สถานีฐาน เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/57 จนไปถึงปี 58 ขณะที่รายละเอียดของทาง ADVANC ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าไปรับงานติดตั้งเสาโทรคมนาคมของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) แล้วจำนวน 600 สถานีฐาน และมีงานในมือสำหรับปี 58 อีกจำนวน 600 สถานีฐาน
"การติดตั้งเสามีผู้รับเหมาจำกัด ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เรามองว่าก็น่าจะได้เข้าไปรับงานตรงนี้ หาก AIS และ DTAC มีการประกาศให้เราเข้าไปประมูล คาดว่าเราน่าจะได้งานจำนวนมากพอสมควรในส่วนของ DTAC ขณะที่ AIS เรายังไม่เห็นความชัดเจนว่าจะลงทุนจำนวนเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในเรื่องของราคาประมูลอยู่ ซึ่งเมื่อมีการประกาศออกมาแล้ว มองว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์น่าจะเห็นความชัดเจนได้"นายสมพงษ์ กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวว่า หากได้รับงานดังกล่าวเข้ามาก็จะส่งผลต่อรายได้ของบริษัทตั้งแต่ปลายปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้ทั้งปี 57 รายได้จะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 800 ล้านบาท
ส่วนการลงทุนด้านพลังงานทดแทนในโครงการโซล่าร์ชุมชนนั้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจและศึกษาการลงทุนดังกล่าว โดยได้เตรียมความพร้อมในด้านเงินทุนไว้แล้วจากแผนการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท(วอร์แรนต์)จำนวน 280 ล้านหน่วย ขณเดียวกันก็ได้เริ่มเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้หลังจากมีการออก TOR มาเพื่อให้ทันกำหนดจ่ายไฟภายในปี 58