ก.ล.ต.ไฟเขียว SMART ขายหุ้น IPO 115 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรดตลาด mai ก.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 25, 2014 10:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นสามัญของ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต(SMART) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไฟเขียวให้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนของ SMART เมื่อวันที่ 21 ส.ค.57 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่า SMART จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนกันยายน 2557

ทั้งนี้ SMART จะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 115 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย SMART จำนวน 70.45 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ชลประทีปสินทรัพย์(CPP) จำนวน 44.55 ล้านหุ้น

บริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 46 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ CCP ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Pre-emptive Right) ในอัตราส่วน 11.8289 หุ้น CCP ต่อการใช้สิทธิซื้อหุ้น 1 หุ้น ของ SMART สำหรับผู้ถือหุ้น CCP ที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 ก.ย. 57 ซึ่งเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการจองซื้อ (Record Date) และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นวันที่ 9 ก.ย. 57 (ทั้งนี้ วันที่ 3 ก.ย. 57 เป็นวันสุดท้ายที่ผู้ถือหุ้น CCP จะได้สิทธิในการจองซื้อหุ้น SMART) และบริษัทจะนำหุ้นสามัญส่วนที่เหลือ จำนวน 69 ล้านหุ้น เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน ไปใช้สำหรับลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ คาดว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ SMART จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ มีการเติบโตตามเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ SMART เปิดเผยว่า บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอิฐมวลเบารายใหญ่ซึ่งครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 3 และในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายในปี 54-56 เท่ากับ 368.64 ล้านบาท 404.19 ล้านบาท 416.48 ล้านบาท ตามลำดับ และงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.57 บริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 220.15 ล้านบาท

“ปริมาณการจำหน่ายอิฐมวลเบาของบริษัทที่เติบโตเพิ่มขึ้น เกิดจากปริมาณความต้องการ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีการยอมรับการใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้างมากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติและการใช้งานที่เอื้ออำนวยต่อทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของอาคาร รวมถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอความรู้ เกี่ยวกับอิฐมวลเบากับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้อิฐมวลเบาเป็นทางเลือกที่ดีของผู้บริโภค"นายประทีป กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดอิฐมวลเบามีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งบริษัทได้เริ่มวางแผนรองรับมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ โดยลงทุนติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติม อาทิ ไซโล เครื่องบดทราย เครื่องผลิตไอน้ำ ตู้อบไอน้ำ เพื่อขยายกำลังการผลิตจาก 3.0 ล้านตารางเมตรต่อปีจนปัจจุบันเป็น 4.5 ล้านตารางเมตรต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีปริมาณสูงขึ้นตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม การระดมทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ SMART สามารถขยายธุรกิจออกไปได้อย่างมีศักยภาพ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่มีอยู่ปัจจุบัน เพื่อขยายกำลังการผลิต ให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 6 ล้านตารางเมตร ต่อ ปี และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ผลิตผนังมวลเบา (PANEL) รวมทั้งผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมความพร้อมให้กับอิฐมวลเบา เช่น คานสำเร็จรูป (LINTEL)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ