ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog) อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท จาก 8 โครงการ ซึ่งจะทยอยโอนรับรู้รายได้ในปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า แบ่งเป็นการรับรู้รายได้จากโครงการ PARC EXO เกษตร-นวมินทร์ โครงการ Up Ekamai โครงการ Nusa Chivani Pattaya โครงการ My Ozone และโครงการแนวราบและแนวสูงที่มีอยู่เดิม
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นจากการขายโครงการแนวราบ ประกอบด้วย โครงการ ณุศาชีวาณี พัทยา เขาใหญ่ พระราม 2 พระราม 5 จำนวน 119.98 ล้านบาท และโครงการแนวสูง อาทิ Parc Exo เกษตร-นวมินทร์ จำนวน 98.58 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 685.56 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 477.48 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 208.08 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 229.46% และมีกำไรสุทธิจำนวน 65.32 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60.82 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 4.50 ล้านบาทหรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,351.55%
ผลประกอบการไตรมาส 2/57 มีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 325.76 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 216.68 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 109.08 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 197.34% และมีกำไรสุทธิจำนวน 29.32 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27.18 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 2.14 ล้านบาทหรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,270.09%
“จากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มปรับตัวดีขึ้นตาม ปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทมีแผนรุกตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนที่มีกำลังซื้อ เน้นการจัดโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่จองบ้านในโครงการ ณุศาศิริ ซิตี้ พระราม2 ,โครงการณุศาชีวานี่ พัทยา และ โครงการ มายโอโซน เขาใหญ่ ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท ได้รับส่วนลดพิเศษ พร้อมสิทธิส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาตินอริชฟรี 2 ปี ขณะเดียวกันได้มีการนำโครงการ PARC EXO เกษตร-นวมินทร์ และ โครงการ Up Ekamai ไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแนะนำโครงการให้เป็นที่รู้จักกับกลุ่มเป้าหมาย"นายวิษณุ กล่าว